กมลา แฮร์ริส ประกาศลงเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯแทน โจ ไบเดน

โจ ไบเดน ประกาศไม่ลงสมัครเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ พน้อมหนุน แฮร์ริส ลงแทน
โจ ไบเดน ประกาศไม่ลงสมัครเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ พน้อมหนุน แฮร์ริส ลงแทน


ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ประกาศผ่านทาง Facebook ว่าเขาจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ในปี 2024 พร้อมหนุน แฮร์ริส ลงสมัครแทนการตัดสินใจครั้งนี้สร้างความตกตะลึงให้กับหลาย ๆ คน เนื่องจากเขา ได้ประกาศเจตนาที่จะลงสมัครเลือกตั้งครั้งที่สอง ในช่วงต้นปีนี้

ในโพสต์ของเขา กล่าวว่า:

“หลังจากการพิจารณา และ ปรึกษาหารือกับครอบครัว และ ที่ปรึกษาของผม ผมได้ตัดสินใจ ที่จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเ ป็นประธานาธิบดี อีกครั้งในปี 2024 ผมเชื่อว่าถึงเวลาที่จะเปิดโอกาสใ ห้ผู้นำคนใหม่ เข้ามาแทนที่ และ นำประเทศของเราต่อไป ผมขอขอบคุณประชาชนอเมริกันทุกคนที่ได้ให้การสนับสนุนและไว้วางใจในช่วงเวลาที่ผมดำรงตำแหน่ง ผมจะยังคงทำงาน เพื่อประชาชนอเมริกันต่อไปจนกว่า วาระของผมจะสิ้นสุดลง”

https://www.facebook.com/photo/?fbid=529263936344772&set=a.108973695040467&locale=th_TH

ประกาศหนุนรองประธาธิบดีลงเลือกตั้งแทน

การตัดสินใจของไบเดน มีผลกระทบอย่างมากต่อ การแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 และ พรรคเดโมแครตจะต้องหา และ เสนอผู้สมัครใหม่ที่จะมาสู้กับผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน

ไบเดน ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2020 และได้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2021 โดยในช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่ง เขาได้มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาหลายอย่าง รวมถึงการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

“เพื่อนพรรคเดโมแครตของผม ผมได้ตัดสินใจ ที่จะไม่ยอมรับการเสนอชื่อ และ ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดของผมในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานาธิบดีไปจนวาระที่เหลือ การตัดสินใจครั้งแรกของผมในฐานะผู้เสนอชื่อพรรคในปี 2020 คือเลือก กมลา แฮร์ริส เป็นรองประธานาธิบดีของผม และ มันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดที่ฉันเคยทำ วันนี้ผมขอสนับสนุน และ สนับสนุนกมลาให้เป็นผู้เสนอชื่อพรรคของเราในปีนี้อย่างเต็มที่ พรรคเดโมแครต – ถึงเวลารวมตัวกันเพื่อเอาชนะทรัมป์ ลงมือทำกันเถอะ”

แฮร์ริส ประกาศพร้อมนำสหรัฐฯไปสู่อนาคต

รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ หลัง โจ ไบเดน พร้อมสนับสนุน ว่าเธอจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี 2024 แฮร์ริสได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า:

“ฉันรู้สึกเป็นเกียรติ ที่ได้ทำงานร่วมกับประธานาธิบดีไบเดน และ ฉันพร้อมที่จะนำพาประเทศของเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า ฉันมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อประชาชนอเมริกันทุกคน และ จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ประเทศของเราก้าวหน้าและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก”

แฮร์ริส เป็นผู้หญิงคนแรก และ คนผิวสีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ การประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งของเธอ จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในทางการเมืองของสหรัฐฯ

ในช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่ง รองประธานาธิบดีแฮร์ริส ได้ทำงานร่วมกับไบเดน ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ การลงสมัครรับเลือกตั้งของแฮร์ริสจะเป็นการทดสอบความนิยมและความสามารถของเธอในการนำพาพรรคเดโมแครตสู่ชัยชนะในปี 2024

ไบเดน ยืนยันติดเชื้อโควิด 

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ COVID-19 โดยมีอาการไม่หนัก และ กำลังอยู่ระหว่างการรักษา ขณะเดียวกันยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ข้อมูลจากทำเนียบขาวระบุว่าเขามีอาการทางเดินหายใจส่วนบนเล็กน้อย เช่น น้ำมูกไหลและไอแห้ง โดยอัตราการหายใจ อุณหภูมิ และระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ไบเดนได้รับการรักษาด้วย Paxlovid ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการรักษา COVID-19 และ เขาได้กล่าวว่ารู้สึกดีระหว่างการเดินทางไปเนวาดา อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเขาติดเชื้อจากสายพันธุ์ใด

นอกจากนี้ มีการเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงของการใช้ Paxlovid ร่วมกับยาลดการแข็งตัวของเลือดที่เขากำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจทำให้ระดับของยานั้นสูงขึ้นได้

ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ หลายคนก็ติดเชื้อ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ ดร.จิล ไบเดน ภริยาของประธานาธิบดี ได้รับการตรวจหาเชื้อและไม่มีอาการแสดงออก

หลายฝ่ายกังวงสุขภาพและอายุของเขา

ขณะที่มีความความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ และ อายุของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งมีอายุ 81 ปี เขาได้รับการตรวจสุขภาพประจำปีในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งผลการตรวจระบุว่าเขามีสุขภาพที่ดี แม้จะมีข้อกังวลเกี่ยวกับอาการบางอย่าง เช่น การเดินที่ช้าลงและการพูดที่ไม่ชัดเจนในบางครั้ง

การตอบสนองต่อการวิจารณ์ต่าง ๆ นั้น ทีมงานของ ไบเดนพยายามที่จะลดความกังวลเกี่ยวกับอายุของเขา โดยเน้นย้ำถึงความสำเร็จ ในตำแหน่งประธานาธิบดี และ การทำงานหนักของเขาในช่วงที่ผ่านมา ด้วยการการสื่อสารที่ชัดเจน และ โปร่งใสเกี่ยวกับสุขภาพของเขาเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

Biden tests positive for COVID. Here are details about his diagnosis and treatment.

Biden’s health and age under even further scrutiny amid questions over his political future

“ไบเดน-มาครง” ออกโรงสนับสนุน “อิสราเอล” ป้องกันประเทศเต็มที่