- BCPGประกาศไตรมาส1ปี’66ทำกำไรสุทธิ512ล้านบาทเพิ่ม72.90%
- ได้2ปัจจัยหนุน“อัตราแลกเปลี่ยนและรับรู้การกลับรายการขาดทุน”
- ตอนนี้รอเดินหน้าโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาวเชื่อมต่อขายไฟฟ้าให้เวียดนามและโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐเริ่มรับรู้รายได้แล้ว
นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 1/2566 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4/2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,057 ล้านบาทลดลง 16.5 % มีกำไรสุทธิ 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.90 % กำไรมาจาก 2 ปัจจัย คือ 1.อัตราแลกเปลี่ยน 2.การรับรู้การกลับรายการขาดทุน จากการด้อยค่าของสินทรัพย์จำนวน 267 ล้านบาท จากโครงการชิบะ 2 ประเทศญี่ปุ่นเนื่องจากปีที่แล้วประเมินโครงการมีความเสี่ยงที่จะได้รับใบอนุญาตก่อสร้างไม่ทันตามกำหนด แต่ขณะนี้ โครงการดังกล่าวสามารถเริ่มการก่อสร้างและคาดจะแล้วเสร็จได้ตามแผน
ขณะที่มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติทำได้ 160 ล้านบาท ลดลง 57.3 % ปัจจัยจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป. ลาวลดลง จากการหยุดผลิตไฟฟ้าเพื่อเตรียมขายให้การไฟฟ้าในเวียดนาม(Vietnam Electricity – EVN) ส่วนการรับรู้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นในไทยจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม กับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น พร้อมทั้งมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมในฟิลิปปินส์ และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา ช่วยบรรเทาผลกระทบจากการหยุดขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ใน สปป. ลาว บางส่วนได้
สรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนมีรายได้รวมลดลง 8.7 %กำไรสุทธิลดลง 62.5 % มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติลดลง 69.1 % เนื่องจากปีที่แล้วมีกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ประกอบกับไตรมาสนี้หยุดขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาวเพื่อเชื่อมการขายไฟฟ้าไปยังเวียดนาม ซึ่งสายส่ง และอุปกรณ์ต่างๆ ได้ติดตั้งเสร็จเรียบร้อย พร้อมจ่ายไฟฟ้าข้ามพรมแดนได้ทันทีที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเวียดนาม
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา (CCGT) ทางบีซีพีจีได้เข้าไปลงทุนตั้งแต่ต้นปี 2566 เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 36 ล้านบาท และไตรมาส 2/2566 จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาส โดยมีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในไต้หวันคืบหน้าไปด้วยดี คาดเดือนพฤษภาคมนี้จะได้รับการยืนยันเชื่อมต่อสายส่งเพื่อขายไฟฟ้าในโครงการด้วยกำลังการผลิต 58 เมกะวัตต์ และเริ่มการก่อสร้างได้ช่วงครึ่งปีหลัง
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน#gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
