“AWC” ปี’65 กำไรอื้อ’65 Q3 พันล้าน 9 เดือนแรก 2.4 พันล้าน ทุ่ม 8.8 พันล้าน ลุยลงทุนเปิดใหม่ 2 โรงแรม ใน กทม.-ภูเก็ต



  • “AWC” โชว์ไตรมาส3 ปี’65 กวาดกำไรสุทธิ 1,026 ล้านบาท ตีปีกรับนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงต่างชาติโตไม่ยั้ง
  • หนุน 9 เดือนแรกกำไรสุทธิโตก้าวกระโดด 2,448 ล้านบาท ทุ่มอีก 8,856 ล้านบาท ลงทุนเปิดใหม่ 2 โรงแรม
  • แกรนด์ เมอร์เคียว แบงค็อก วินด์เซอร์ กับเดอะ เวสทิน สิเหร่ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด(มหาชน) “AWC” เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี ระหว่าง กรกฎาคม-กันยายน 2565 มีกำไรสุทธิตามงบการเงิน 1,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.4 % ทำกำไรสุทธิโดยไม่รวมมูลค่ายุติธรรม 36 ล้านบาท สร้างรายได้รวมตามงบการเงิน 3,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.8 % จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจโดยไม่รวมมูลค่ายุติธรรมเพิ่มขึ้นเป็น 994 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) มีเพียง 47 ล้านบาท เติบโตแบบกระโดด 2,029 %

เป็นผลมาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1.พอร์ตทรัพย์สินคุณภาพและองค์กรวางกลยุทธ์เตรียมพร้อมสอดรับกับนโยบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบ 2.นักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพสูงมีจำนวนเพิ่มขึ้น 3.ทรัพย์สินคุณภาพที่มีการเพิ่มมูลค่าต่อเนื่องทำให้บริษัททำกำไรเติบโตได้รวดเร็วอย่างแข็งแกร่ง

รวมทั้ง AWC มีผลประกอบการ 9 เดือนแรก ระหว่างมกราคม-กันยายน 2565 ทุกกลุ่มธุรกิจเติบโต มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น2,448 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปีกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน (YoY)เพิ่มแบบก้าวกระโดดทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่กลุ่มที่ 1 ธุรกิจโรงแรมและการบริการเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง กลุ่มที่ 2 อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ประกอบไปด้วยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าเเละธุรกิจอาคารสำนักงาน (Retail & Commercial) เติบโตได้ดีเช่นเดียวกันสะท้อนถึง AWC สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีศักยภาพ ผนวกกับการวางกลยุทธ์ปรับโครงสร้างการบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพดังนี้

กลุ่มที่ 1 ธุรกิจโรงแรมและการบริการ บริษัทกลับมาเติบโตทุกเซ็กเมนต์ โดยเฉพาะโรงแรมและรีสอร์ตหรูหราในกรุงเทพฯ ได้ตลาดประชุมสัมมนาหรือMICE เพิ่มขึ้น และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าไทยเป็นกลุ่มแรกผ่านเครือข่ายพันธมิตรโรงแรมระดับโลก

ภาพรวมไตรมาส 3 ปี 2565 โรงแรมเครือ AWC มีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) เพิ่มขึ้น 53 %เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีเพียง 14.2 % ส่วนราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Rate หรือ ADR) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4,920 บาท/คืน ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันกับปี 2562 ก่อนโควิด-19 อยู่ที่ 4,052 บาทต่อคืน และจากจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากถึง 49,675 เที่ยวบิน สถิติไตรมาส 3 ปีนี้สูงขึ้น 41 % เมื่อเทียบกับไตรมาส2 ตามคาดการณ์จะมีตลาดคุณภาพต่างชาติท่องเที่ยวเมืองไทยทั้งหมดกว่า 60%

ส่วน “การดำเนินงาน” กลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการในไตรมาส 3/2565 สร้างรายได้ 1,789 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 100 % มีกำไรจากก่อนหักภาษีต่าง ๆ (EBIDA) 493 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 100 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) มี Revenue Generation Index เปรียบเทียบกับโรงแรมในกลุ่มเดียวกันซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น โรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ มีค่า RGI ทำได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับ 241.7 ขณะที่ “โรงแรมรองรับตลาดกลุ่มประชุมสัมมนา” (MICE) กับ “กลุ่มรีสอร์ทระดับ ลักซ์ซูรี” ได้รับความนิยมสูง เช่น โรงแรม บันยันทรีกระบี่ มีค่า RGI สูงที่สุดในกลุ่มเท่ากับ 261.4 เช่นกัน

แรงหนุนทำให้ผลการดำเนินงาน AWC ปีนี้เติบโตแข็งแกร่งรวดเร็วมาก เพราะบริษัทเดินหน้าพัฒนาและปรับปรุงโครงการต่าง ๆ ต่อเนื่อง เพื่อรักษาความสามารถทางการแข่งขันและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ได้อย่างรวดเร็ว จึงสร้างกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่ง จากจำนวนห้องพักไตรมาส 3 ปี รวมทั้งหมด 5,199 ห้อง เพิ่มขึ้นจากปี 2562 มีเพียง 3,432 ห้อง

ล่าสุด AWC เตรียมจะเข้าลงทุนและพัฒนาในกรุงเทพฯ และภูเก็ต อีก 2 โครงการ รวมมูลค่า 8,856 ล้านบาท เพิ่มพอร์ตสินทรัพย์คุณภาพของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ ได้แก่ การเข้าลงทุนและพัฒนา โครงการแรก “โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว แบงค็อก วินด์เซอร์ และโครงการที่ 2 เดอะ เวสทิน สิเหร่ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต

กลุ่มที่ 2 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail & Commercial) กลุ่มแรก “ธุรกิจอาคารสำนักงาน” ยังคงเป็นสร้างกระแสเงินสดให้ต่อเนื่องรายได้เติบโตโดยไม่รวมมูลค่ายุติธรรมเพิ่มขึ้น 12.8 %  เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน มีกลุ่มผู้เช่าที่เป็นลูกค้าองค์กรธุรกิจต่างประเทศ ถือเป็นกลุ่มคุณภาพมีอยู่กว่า 60 % ด้วยสินทรัพย์อาคารสำนักงานคุณภาพเกรด A ที่ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพย่านธุรกิจ และการพัฒนาระบบเทคโนโลยีขานรับความต้องการผู้เช่ายุคดิจิทัลต้องการได้รับความสะดวกและปลอดภัย

กลุ่มสอง “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า” สร้างกระแสเงินสดได้ต่อเนื่อง จากประชาชนเข้ามาจับจ่ายและใช้บริการศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น ผนวกการบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นจะส่งผ่านEBIDA (Flow Through) สัดส่วนมากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะศูนย์การค้าเพื่อการท่องเที่ยวอย่าง เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ มี Flow Through ไตรมาส 3 ปีนี้ เท่ากับ106 % เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน

นางวัลลภา กล่าวว่า ไตรมาส 3 ปีนี้ AWC ได้ลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกมากมาย เช่น การลงนามสัญญาร่วมทุน และจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท เอดับบลิวซี ฮอสปิทอลลิตี้ เดเวลอปเมนท์ จำกัด (AWC Hospitality Development Co., Ltd.) เข้าร่วมลงทุนในธุรกิจโรงแรมที่มีศักยภาพตามแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของไทย เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยบริษัทมีแผนเพิ่มทุนรวมทั้งสิ้น 10,800 ล้านบาท อีกทั้งยังร่วมมือกับ Nobu Hospitality แบรนด์ไลฟ์สไตล์สุดหรูระดับโลก แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ดิจิทัล เวนเจอร์ส การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และพันธมิตรอีกหลายราย เดินหน้าขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืน ยกระดับไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนของโลก

ทั้งนี้ AWC ยึดมั่นพันธกิจ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” เดินหน้าพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้ 3 เสาหลัก 6 มิติ หรือ 3 BETTERs ได้แก่ Better Planet, Better People, Better Prosperity เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในดัชนีชี้วัดด้านความยั่งยืน (Sustainability Index) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่รายชื่อหุ้นยั่งยืนThailand Sustainability Investment (THSI) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ได้รับการประเมินจาก MSCI ESG Rating ระดับ “AA” ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนของ S&P (จากรายงาน The Sustainability Yearbook 2022) ของกลุ่มอุตสาหกรรมโรงแรม รีสอร์ท และเรือสำราญ ได้รับการจัดอันดับรายงานการกำกับดูแลกิจการ ในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) และได้การรับรองให้เป็นแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) ตอกย้ำถึงเป้าหมายการนำธุรกิจสร้างสรรเศรษฐกิจประเทศในเวทีนานาชาติอย่างแท้จริง

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen