

บริการ สตริมมิ่งวิดีโอ จนถึงขณะนี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างมาก ต้องขอบคุณเทคโนโลยีการบีบอัดและส่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถดูวิดีโอคุณภาพสูงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ตมากนัก
ทำให้การรับชมโปรแกรมภาพยนตร์และรายการบันเทิงต่างๆ มีความสะดวกสบาย อยู่ที่ไหนก็รับชมคอนเทนท์ที่หลากหลายได้ บนหลากหลายอุปกรณ์ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ และสมาร์ททีวี
ด้วยค่าบริการรายเดือนที่เข้าถึงได้ รวมไปถึงการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างผู้ห้บริการแพล็ตฟอร์มที่ได้ลงทุนการสร้างภาพยนตร์แบบออริจินัลที่มีคุณภาพสูง ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ของตนเองขึ้นมาเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชมจากทั่วโลกให้สมัครสมาชิก
เมื่อเห็นตัวเลขล่าสุดของบลูมเบิร์ก ได้รายงานว่า แอปเปิล ที่เปิดให้บริการ Apple TV+ มีส่วนแบ่งผู้ชมในสหรัฐฯเพียง 0.2% เท่านั้น ต่ำกว่า คู่แข่งซึ่งเป็นเจ้าตลาดอย่าง Netflix ซึ่งผู้ชมหนึ่งวันของ Netflix มากกว่าผู้ชม Apple TV+ ในหนึ่งเดือน
พร้อมกับยกตัวอย่างมินิซีรีส์เรื่อง Masters of the Air โดย ซึ่งมีต้นทุนการผลิตสูงถึง 250 ล้านดอลลาร์ แทบจะไม่มีใครรู้จัก
Apple TV+ เป็นบริการ สตริมมิ่งวิดีโอ ที่เข้าถึงคอนเทนท์หลากหลายประเภท เช่น ซีรีส์ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ และ สารคดี โดยส่วนใหญ่จะเป็นออริจอนัลหรือต้นฉบับที่ผลิตโดย Apple เอง ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดขายสำคัญ
เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนปี 2019 และตั้งเป้าที่จะแข่งขันกับบริการสตรีมมิ่งอื่นๆ เช่น Netflix และ Disney+ โดยมีการลงทุน ในคอนเทนท์ที่มีคุณภาพสูง และ ได้รับรางวัลมากมาย
นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ระบุว่า อัตราการเติบโตสมาชิกของ Apple TV+ มีความอ่อนแอ โดยมีคอนเทนท์ออริจินัลน้อยมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้ โดย Netflix มีสมาชิกมากกว่า 277 ล้านคนเข้าถึงผู้ชมมากกว่า 600 ล้านคนทั่วโลก เพิ่มึ้นถึง 8 ล้านคน กำไรรายไตรมาสเติบโตสูงถึง 44% จากปี 2023 เพิ่มถึง 7 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2019 ขณะที่ Apple TV+ มีตัวเลขสมาชิก 25 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม Apple TV+ ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะผลิตซีรีส์เพิ่มเติม เช่น Monarch, The Morning Show, Silo, “For All Mankind, “Surface, และ Hijack เป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการผลิต โดยเฉพาะซีรีส์ The Morning Show ที่มีค่าใช้จ่ายมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์สำหรับนักแสดง
ขณะที่ การลดจำนวนรายการลง นับเป็นแนวทางที่ถูกต้อง โดยปี 2021 รายการออริจินัลทั้งหมด ได้มีการต่อซีซั่นออกไปเพียง แค่ 22% แม้ว่า การตัดบางรายการจะทำให้แฟนๆ ไม่พอใจ แต่หากตัวเลขไม่สามารถพิสูจน์การใช้จ่ายได้ แอปเปิล ก็ต้องลดการขาดทุน และ เดินหน้าต่อไป
Apple ควรให้ความสำคัญกับคอนเทนท์ที่ได้ผลมากขึ้น ก่อนที่จะจ่ายเงินจำนวนมาก สำหรับคอนเทนท์ออริจินัลใหม่ที่อาจมีผู้ชมน้อย ความคิดสร้างสรรค์ และ ธุรกิจมักขัดแย้งกัน และ การลงทุนในแนวที่ได้รับความนิยมอย่างแน่นอนเช่น Sci-fi อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เช่น Foundation, Severance, Dark Matter, และ Silo
ตัวเลขสมาชิกของ Apple TV+ อาจยังอยู่ในระดับต่ำของตลาดสตรีมมิ่ง แต่พวกเขา มีโอกาสที่จะเติบโตหากใช้กลยุทธ์ที่ถูกต้อง ข้อมูลผู้ชมสามารถช่วยชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จ และ ความล้มเหลวในการตัดสินใจลงทุนในอนาคต
แม้ว่า Netflix จะมีการเริ่มต้นที่ใหญ่กว่า แต่ Apple ยังมีโอกาสที่จะเป็นผู้เล่นตัวจริงในตลาดนี้
สำหรับตลาด บริการสตริมมิ่งวิดีโอ ที่มีแนวโน้มเติบโตจากสมาชิกใหม่โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ในประเทศที่กำลังพัฒนาที่มีการขยายตัวของอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI, VR, และ AR มาใช้ในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การรับชมและดึงดูดผู้ใช้ใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
Apple TV+ Reveals Shocking Viewership Compared to Netflix
Apple TV+ บริการสตริมมิ่งวีดิโอ แหล่งรวม Apple Originals