

สรุปงานอีเวนท์ Let Loose ของ แอปเปิล กับการเปิดตัว iPad 2024 ใหม่ iPad Pro M4 และ iPad Air M2 รวมทั้งอุปกรณ์เสริม Apple Pencil Pro และ Magic Keyboard ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ในที่สุดได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่สมการรอคอย
มีข้อสังเกตในไตรมาสล่าสุด ที่ผ่านมา ยอดขายกลุ่มธุรกิจ iPad ลดลงถึง 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ในปีที่ผ่านมา
น่าจะเป็นเหตุผลหลัก ๆ คือไม่ได้รีเฟรชรุ่นใหม่ ๆ ออกมาเพื่อกระตุ้นยอดขาย เช่น iPad Pro เป็นเวลา 2 ปี แต่สำหรับแฟนๆ iPad mini ที่เฝ้ารอรุ่นใหม่ออกมา 3 ปีแล้ว ยังคงต้องรอลุ้นอีเวนท์ในรอบถัดไป
iPad Pro ชิปM4 อัปเกรดใหม่ทั้งภายในและภายนอก
รอบนี้ไม่ได้แค่รีเฟรช แต่ยกเครื่องใหม่หมด มี 2 รุ่นคือ จอ 11 นิ้ว และจอ 13 นิ้ว แต่ใช้วิธีกระโดดข้ามรุ่น
จากเดิม ชิป M2 ซึ่งเป็นอุปกรณ์แรก ของแอปเปิลที่ใช้ M4 ซึ่งหมายความว่า แอปเปิลต้องการที่จะดันยอดขายให้เต็มสูบ ซึ่งปกติชิป M2 มีความเร็ว แรงและทรงพลังอยู่แล้ว ยิ่งยกระดับให้ล้ำขึ้นไปอีก
ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้อัปเกรดหน้าจอเป็นเทคโนโลยี OLED สองชั้น โดย แอปเปิลระบุว่าเป็นจอ Ultra Retina XDR ที่มีโดดเด่นทั้งในด้านความแม่นยำ สีสัน รวมทั้งความสว่าง ยิ่งไปกว่านั้น ยังเพิ่มทางเลือกพิเศษกระจกผิวนาโนใหม่ที่สลักสลักพื้นผิวด้วยความแม่นยำระดับนาโนเมตร
เพื่อรักษาคุณภาพของภาพ และคอนทราสต์พร้อม ๆ กับทำให้เกิดการกระเจิงของแสงเพื่อลดแสงสะท้อนให้น้อยลง นี่จึงเป็นการตอบโจทย์เวิร์กโฟลว์ขั้นสูงที่ต้องมีการจัดการด้านสี ทั้งยังเหมาะกับ สภาพแสงที่ท้าทายด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับการออกแบบตัวเครื่อง มีความบางและเบา เห็นได้ชัด 11 นิ้ว บางเพียง 5.3 มม. ส่วนรุ่น 13 นิ้ว บางยิ่งกว่าที่ 5.1 มม.
ในขณะที่ทั้งสองรุ่นมีความแข็งแกร่งไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้า รุ่น 11 นิ้ว มีน้ำหนักไม่ถึง 500 กรัม ส่วนรุ่น 13 นิ้ว มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึงประมาณ 100 กรัม มีสองสีคือ สีเงิน และ สีดำสเปซแบล็ค

เมื่อผสานกับชิป M4 จะเป็นจอภาพที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก แต่ก็แลกมาด้วยการเพิ่มราคา โดยราคาจำหน่ายสูงสุดที่ 104,900 บาท ในรุ่น 13 นิ้ว
ส่วนรุ่น 11 นิ้ว ราคา 91,900 บาท กับสเปค Wi-Fi+Cellular ขนาด 2 TB
ขณะที่ตัวระดับล่างสุด รุ่น 11 นิ้ว Wi-Fi ที่ 39,900 บาท ส่วน 13 นิ้วเริ่มต้นที่ 52,900 บาท
ใช้คู่กับ Apple Pencil Pro และ Magic Keyboard
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Apple Pencil Pro รุ่นใหม่กับการทำงานแบบใหม่หมด แค่บีบที่ตัวดินสอ เซ็นเซอร์จะรับรู้และเปิดชุดเครื่องมือให้เลือกใช้งาน
และแค่หมุนด้ามก็เปลี่ยนขนาดเส้นดินสอไปจนถึงแปรงรูปทรงต่างๆ นอกจากนี้ ช้แอป Find My ช่วยให้หาดินสอที่ชอบทำหายหาได้ง่ายขึ้น จำหน่ายราคา 4,990 บาท

Magic Keyboard ใหม่มีแถวปุ่มฟังก์ชั่น สำหรับเรียกใช้คุณสมบัติต่างๆ อย่างความสว่างหน้าจอ และการควบคุมระดับเสียง อีกทั้ง ยังมีที่พักมืออะลูมิเนียมอันสวยงาม และ แทร็คแพดกระจกขนาดใหญ่ขึ้น ที่ใช้งานได้รวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น และ ยังตอบสนองแบบสั่นได้ด้วย เพื่อประสบการณ์การใช้งาน จะช่วยให้การใช้งานใหม่เข้าใกล้ MacBook Air ไปทุกขณะ
ราคาจำหน่าย Magic Keyboard รุ่น 11 นิ้ว ใหม่มีจำหน่ายในราคา 11,990 บาท ส่วน Magic Keyboard รุ่น 13 นิ้ว มีจำหน่ายในราคา 13,990 บาท

iPad Air M2 มาคู่กับ iPad Pro M4
ได้รับการอัปเกรดใหม่หมด และมีให้เลือก 2 รุ่น คือรุ่น 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว แม้ว่าจะมีการเปิดตัวรุ่นล่าสุดในปีที่ผ่านมา
แต่การแนะนำในปีนี้ แน่นอนว่า แอปเปิลต้องการปิดช่องว่างทางการตลาด สำหรับผู้ต้องการใช้จอขนาดใหญ่ และทรงพลัง แรงสุด กับชิป M2 แต่ราคาเข้าถึงได้มากกว่า รองรับ Apple Pencile Pro รวมทั้ง Magic Keyboard ใหม่
อัปเกรดมาจากชิป M1 เมื่อเทียบกันแล้วเร็วกว่าเกือบ 50% และเทียบกับชิป A14 ก่อนหน้านี้เร็วสูงสุดกว่า 3 เท่า เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา คอนเทนท์ ครีเอเตอร์ และอื่นๆ ที่ต้องการอุปกรณ์พกพาตอบสนองใช้งานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ และทรงพลัง
โดยเฉพาะการใช้ AI ทีมี Neural Engine แบบ 16-core ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเร็วกว่าชิป M1 ถึง 40% เมื่อรวมกับกระเรียนรู้ของเครื่องใน CPU และ GPU จึงมอบประสิทธิภาพด้าน AI ได้อย่างยอดเยี่ยม
การออกแบบใหม่หมด นอกจากจอภาพแล้ว ยังมีสีใหม่ในสีฟ้าและสีม่วงใหม่ พร้อมด้วยสีสตาร์ไลท์และสีเทาสเปซเกรย์ ให้เลือกตามความชอบ รุ่น 11 นิ้ว ยังคงมีราคาเริ่มต้นเพียง 27,900 บาท และ รุ่น 13 นิ้ว มีราคาสุดค 29,900 บาท
สำหรับสเปค รายละเอียด ราคาจำหน่ายแต่ละรุ่น ให้ตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ apple.com ซึ่งจะมีการประกาศวันจำหน่ายในร้านค้าทั้งออนไลน์ และ แอปเปิล สโตร์ อีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : Apple เปิดตัว iPad Pro ชิป M2 ใหม่ ทรงพลัง ประสิทธิภาพเหนือชั้น เทคโนโลยีสุดล้ำ