อายิโนะโมะโต๊ะ อั้นไม่ไหว ประกาศขึ้นราคาผงชูรส 4%

มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) ผู้นำตลาด ผงชุรส
มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย)

อายิโนะโมะโต๊ะ เปิดแผนธุรกิจ ในปีนี้ฉลองความสำเร็จ จากการเป็นผู้ผลิตอาหารอันดับแปดของไทย เตรียมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางอาหารระดับโลก พร้อมส่งนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อะมิโน ไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และ การบริหารด้วยแอป i-LiveWell ขณะที่ต้นทุนการผลิต ผงชูรส พุ่งขึ้นราคา 4%

มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยจะเน้นความเป็นผู้นำในการสร้างความ “กินดีมีสุข” อย่างยั่งยืน โดยร่วมมือกับภาครัฐ เพื่อส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการเกษตร และ อาหารระดับโลก (Agriculture and Food Hub) ชูกลยุทธ์โภชนาการครบวงจร เปิดตัวนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เน้น “ศาสตร์แห่งกรดอะมิโน” (AminoScience) เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีแก่ผู้บริโภค

พร้อมขยายธุรกิจเข้าสู่บริการสุขภาพด้วย “แอปพลิเคชัน i-LiveWell” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกินดีมีสุข สำหรับมนุษย์เงินเดือน นอกจากนี้ ยังมี “โครงการ Thai Farmer Better Life Partner” ที่ส่งเสริมการเกษตรไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

จากผลการสำรวจแสดงว่าผู้บริโภคมองว่าความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอยู่กับอาหาร โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 20-39 ปี นิยมสร้าง work-life balance และ เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และ น่าทาน ในขณะที่กลุ่มผู้ใหญ่อายุ 45-65 ปี จะหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เน้นอาหารที่ไม่มีน้ำตาล ลดเค็ม ไขมันต่ำ และงดอาหารแปรรูป ทั้งสองกลุ่มเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมที่ดีมีผลต่อคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะวัสดุที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้

มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในช่วงเวลากว่า 100 ปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ ได้ใช้ ‘ศาสตร์แห่งกรดอะมิโน’ (AminoScience) เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต ของผู้คนทั่วโลกให้ ‘กินดีมีสุข’ โดยในปี 2573 จะมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามยุทธศาสตร์ ด้านความยั่งยืน และ ในปี 2567 มีผลประกอบการ 32,000 ล้านบาท เป็นผู้นำอันดับแปดในกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตอาหาร ในประเทศไทย

โดยมีผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ มีส่วนแบ่งตลาด 93% จากมูลค่าตลาด ผงชูรส 15,000 ล้าน , รสดี 89% จากตลาดเครื่องปรุงรส 10,000 ล้านบาท,  และกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ 53% พร้อมทั้งขยายธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เสริมกรดอะมิโนที่เติบโตถึงจัวเลขสองหลัก 

นายวันนเรศวร์ สุขีลักษณ์ ผู้จัดการแผนกธุรกิจใหม่ กล่าวว่า ได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน i-LiveWell ซึ่งเป็นนวัตกรรมสุขภาพสำหรับองค์กร โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาแอปรุกตลาดการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันด้วยโมเดลธุรกิจแบบ B2B ตั้งเป้าเจาะ 50 บริษัททั่วไทย โดยเดินเกมขยายธุรกิจด้านบริการอย่างเต็มตัว ตั้งเป้ามีพนักงานผู้ใช้งานกว่า 3,000 คน ภายในปี 2025

มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กล่าวปิดท้ายว่า นอกจากการส่งเสริมโภชนาการที่ดีแล้ว เรายังมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนต่อสังคม และ สิ่งแวดล้อม ผ่าน ‘โครงการ Thai Farmer Better Life Partner’ เพื่อเพิ่มศักยภาพและเสริมทักษะเกษตรกรไทยอย่างครบวงจร ลดการปล่อยคาร์บอน และ สร้างการเติบโตให้ผลผลิต 26-28% พร้อมสนับสนุนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารระดับโลก

ขณะเดียวกัน ทางบริษัทได้ประกาศปรับราคาสินค้าผงชูรส ตั้งแต่ 1 กรกฏาคม 2567 เป็นต้นไป โดยจะขึ้นราคาในแพ็กเกจขนาดใหญ่ 4% ส่วนแพ็กเกจขนาดเล็กยังคงราคาเดิมไว้ สาเหตุหลักคือไม่สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้จากวัตถุดิบหลักคือผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังมีราคาพุ่งอย่างต่อเนื่อง แม้ บริษัทจะพยายามลดต้นทุนและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพแล้วก็ตาม

สำหรับการขึ้นราคาดังกล่าว นัเบป็นครั้งที่สองตั้งแต่ปี 2022 ที่ผ่านมาครั้งนั้นได้ขึ้นราคาเฉลี่ย 10%

มร.ซะกะกุระ กล่าวว่า ปัจจบัน ผู้บริโภคชาวไทย มีความตื่นตัว ในกระแสรักสุขภาพกันมากขึ้น ตอบรับข้อมูลใหม่ๆ ซึ่งนับเป็นผลดีต่อบริษัทถึงกรณีที่ผู้คนมองภาพลบกับผงชูรส ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อน บริษัทจะพยายามสื่อสารให้ผู้บริโภคมีความเข้าใจต่อไป ว่าผลชูรสมีกรดอะมิโน ที่มีคุณสมบัติเป็นประโยชน์หลายด้าน รวมถึงทำให้รสชาติอาหารอร่อยขี้น และ มีข้อมูลว่าไทย เป็นประเทศที่บริโภคโซเดียมเป็นอันดับหนึ่งของโลก และผงชูรสเองกลับช่วยลดโซเดียมถึงหนึ่งในสามจากกบริโภค

https://www.ajinomoto.co.th/th

“อายิโนะโมะโต๊ะ” เปิดแผนขับเคลื่อนความยั่งยืนพิชิต Net Zero