“ธรรมนัส” ชงพักหนี้เกษตรกรลูกหนี้สหกรณ์ 7แสนรายเข้าครม. 7พ.ย.นี้ หนี้ไม่เกิน 3 แสนบาท ใช้งบวงเงิน 14,898 ล้านบาท รวมมูลหนี้ 8.8 หมื่นล้านบาท
- พ่วงอีก 2 มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว
- สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี
- สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มของสหกรณ์การเกษตร
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 7 พ.ย.นี้ กระทรวงเกษตรฯจะเสนอมาตรการพักหนี้เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ จำนวน 707,213 ราย ที่มีหนี้ไม่เกิน 300,000 บาท มูลหนี้รวม 88,131.33 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการภายใต้หลักเกณฑ์เดียวกับเกษตรกรรายย่อยลูกหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) โดยการพักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยในอัตรา 4.5% ต่อปี เป็นเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค. 2566 – 30 ก.ย. 2569 คาดว่าจะใช้งบประมาณในการชดเชยดอกเบี้ยให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรรวม 4,296 ล้านบาท
“ในช่วงที่ผ่านมา พบสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ 9,359 แห่ง สมาชิกรวม 12.04 ล้านคน ส่วนใหญ่ มีรายได้ไม่เพียงพอส่งชำระหนี้คืนสหกรณ์ ระดับหนี้สินครัวเรือนของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในปี 2564 มีหนี้สินเฉลี่ย 203,520 บาท/คน เพิ่มเป็น 209,865 บาท/คน ในปี 2565”รมว.เกษตรฯกล่าว
ขณะเดียวกันยังมีอีก 2 มาตรการที่จะเสนอครม.ในวันเดียวกัน คือ มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกปีการผลิต 2566/67 วงเงินจ่ายขาด 10,601.96 ล้านบาท โดย 2 มาตรการมีดังนี้ 1.สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โดยเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง 1-5 เดือน เริ่ม 1 ต.ค. 2566 ถึง 29 ก.พ. 2567 เป้าหมายข้าวเปลือก 3 ล้านตัน วงเงิน 10,120.71 ล้านบาท เป็นการช่วยเหลือค่าฝาก 1,500 บาทต่อตัน สหกรณ์รับ 1,000 บาท/ตัน เกษตรกรรับ 500 บาท/ตัน
2.สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มของสหกรณ์การเกษตร มีเป้าหมายรวบรวมข้าว 1 ล้านตัน วงเงินชดเชยดอกเบี้ย 481.25 ล้านบาท สหกรณ์จ่ายดอกเบี้ย 1% รัฐช่วยดอกเบี้ย 3.85% ระยะเวลา 15 เดือน เริ่ม 1 ต.ค. 2566 ถึง 30 ก.ย. 2567
ส่วนเงินช่วยเหลือพี่น้องชาวนาซึ่งเป็นค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพข้าวไร่ละ 1,000 บาท/ไร่ จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติต้นเดือนธ.ค.นี้
