นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีที่มีการกดดันจากฝ่ายการเมืองให้ไทยเร่งบริการวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนให้เร็วที่สุดนั้นว่า จากการที่ติดตามการทำงานของทีมวัคซีนไทยที่เต็มไปด้วยแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ตนมั่นใจว่า แผนการทั้งหมดไม่มีผิดพลาด และประเด็นเรื่องฉีดวัคซีนช้า หรือเร็วก็ล้วนอยู่ในการพิจารณาของพวกท่านแล้ว ว่าจะจัดการอย่างไรให้เหมาะสมที่สุดกับประเทศไทย ที่มีระบบการจัดการโรคระบาดอันดับ 4 ของโลก
ประเด็นคือ แรงกดดันเรื่องการฉีดวัคซีนต้องเร็ว ต้องสู้กับเขา ต้องแข่งกับเขา นั้น ปัจจุบันเป็นประเด็นทางการเมืองไปแล้ว และก็เป็นเรื่องที่ส่วนตัวกังวลว่าอาจจะไปกดดันคนทำงานมากเกินไปหรือไม่ ตนพูดในฐานะผู้ที่เห็นใจคนทำงานเรื่องวัคซีน ที่พยายามทำงานให้ดีที่สุด แต่กลับเป็นทีมที่ถูกวิจารณ์มากที่สุด ขณะที่คนที่ทำผิดกฎหมาย นำเชื้อเข้ามาฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลกลับไม่กล่าวถึงนัก แบบนี้ ถูกต้องแล้วหรือ
ทั้งนี้ ทางไทย ปรับแผนจะนำวัคซีนเข้ามาในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 แต่ขลุกขลักบ้าง เพราะ EU จำกัดการส่งออก หรือการติดปัญหาเอกสารจากประเทศต้นทาง ถามว่าแล้วทีมวัคซีนที่ประเทศไทยมีความผิดอะไร
อยากให้ย้อนกลับไปดูว่า ในวันที่ไทย คนไทยทั้งชาติช่วยกัน จนสามารถควบคุมโรคได้ดีมีประสิทธิภาพคนกลุ่มนี้ไปไหน ไม่เห็นเคยมาเปรียบเทียบไทยกับใครเลย ไม่ชื่นชม ยกย่อง แต่พอมีปัญหา คนกลุ่มนี้กลับขยับคึกคัก วิพากษ์วิจารณ์ คนทำงานหนัก ตั้งข้อสงสัยสารพัด จับไทยไปเทียบกับต่างชาติ หาประเด็นมาโจมตี โดยไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของข้อมูล แทนที่จะช่วยกันหาทางออก เป็นกำลังใจกันและกัน
“ทุกคนมีสิทธิ์สงสัย แต่ผมขอให้การสงสัยนั้น เป็นไปด้วยความหวังดี เป็นข้อเสนอแนะด้วยใจของคนที่รักชาติบ้านเมือง และรับฟัง เข้าใจคำตอบด้วยใจ ที่ปราศจากอคติ ดีกว่าตั้งคำถามไป ด่าไป เหน็บแนมไป ซึ่งมันไม่ได้ช่วยให้ประเทศดีขึ้น แถมยังไปกระเทือนหัวใจคนที่เขามุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อประเทศด้วย”
