

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องการจัดหาวัคซีนขอยืนยันว่าคนไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน ขณะนี้ได้มีการจัดหา จัดซื้อมาตามลำดับ ตามที่เคยให้ข้อมูลไปแล้ว ที่สำคัญเมื่อได้วัคซีนมาแล้วจะทำอย่างไรในเรื่องการกระจายวัคซีนและการขนส่ง อุปกรณ์ขนวัคซีนไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดหรือในพื้นที่ที่กำหนดไว้ที่จะต้องให้บริการฉีดวัคซีน ทั้งโรงพยาบาลและสถานพยาบาลต่างๆ สาธารณสุขต่างๆเหล่านี้ต้องมีการจัดทำแผนอีกครั้ง
นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งรัดให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้เกิดความชัดเจน โดยจะต้องทั่วถึงและเพียงพอ เนื่องจากวัคซีนทยอยมา และจะต้องทยอยคนรับการฉีดตามลำดับความเร่งด่วน ความสำคัญ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้างานหรือคนที่ต้องไปเกี่ยวข้องกับการดูแลประชาชน เหล่านี้ เพราะมันอันตราย ในส่วนประชาชนจะต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง ข้อสำคัญเราต้องเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนได้ เมื่อมีการรับรองมาตรฐานจากทางองค์การอาหารและยา (อย.) แล้ว ทั้งของต่างประเทศและประเทศไทย ซึ่งของต่างประเทศคงไม่มีปัญหามากนัก สามารถนำมาผ่าน อย.ของเราได้ ถ้ายังไม่ได้ต้องดำเนินการให้ถูกต้อง อันนี้เป็นห่วงเรื่องความเสี่ยง
“การจัดหาวัคซีนมีความคืบหน้าในสัปดาห์หน้าไปเรื่อย ๆ และจะสร้างการรับรู้เรื่อยๆ ว่าจะเข้ามาอย่างไรเมื่อไหร่ ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือในความจำเป็นที่รัฐบาลจะจัดระเบียบตรงนี้ โดยจะให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนงานออกมาให้เกิดความชัดเจน รับมาเมื่อไหร่ และจะต้องทำอย่างไรต่อ จะขนย้ายอย่างไร จะไปฉีดที่ไหนเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ว่าถึงประชาชนแน่นอนทั้งประเทศในระยะต่อไป”นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในตอนท้ายด้วยว่า มอบหมายให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปแถลงถึงรายละเอียดและมาตรการต่างๆในการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ให้เข้าใจว่าวันนี้สถานการณ์หลายอย่างมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะมีผู้ติดเชื้ออยู่ก็ตาม แต่เราสามารถควบคุมไว้ได้ในระดับที่น่าพอใจ ฉะนั้นขึ้นอยู่กับความร่วมมือของพวกเรา ลดการเดินทางบ้าง อันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แสดงว่าหลายคนเข้าใจแล้วว่าเราต้องอยู่กับโควิดอย่างไร
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้หน้ากากวันนี้เพิ่มขึ้นเป็น 90 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิมแล้ว ผมอยากให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ในการใช้หน้ากากาผ้าหรือหน้ากากอนามัยก็แล้วแต่ อย่างน้อยก็ป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อหรือไปแพร่เชื้อคนอื่น และต้องพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติตามทีเคยพูดไปแล้ว การติดเชื้อง่ายๆคือลิ้นไม่รับรู้รส จมูกไม่ได้กลิ่น ทำนองนี้สงสัยก็ไปพบแพทย์ ขอทุกคนอย่าหลีกเลี่ยง ถ้าจะปกปิดกันมันไม่ได้ และจะแก้ไขอะไรไม่ได้”นายกฯกล่าว
พร้อมระบุว่า สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือเรามีกฎหมายทุกตัวมีเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง เราต้องไม่ปล่อยปละละเลยตัวเอง หรือให้คนในครอบครัวไปในสถานที่ไม่ควรไป อย่างที่ทราบกันดีส่วนใหญ่มักติดเชื้อมาจากสถานที่อโคจรทั้งสิ้น ดังนั้นไม่ควรไป ไม่ควรจะเสพยา รวมกันเป็นกลุ่มอะไรทำนองนี้ เหล่านั้นเป็นอันตรายและเป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลจะต้องนำมาแก้ไข อะไรช่วยลดบ้างเจ้าหน้าที่เขาทำงานหนัก หลายคนไม่ได้พักผ่อน ติดเชื้อโควิดเข้าไปด้วยก็ต้องดูแลเขาเป็นพิเศษอยู่แล้ว
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้เราเป็นห่วงประชาชนเสมอ อะไรก็ตามที่เดือดร้อนหรือร้องเรียนขึ้นมาตนก็ดูแลทุกอัน แต่มันก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอน ตามกฎหมายและวิธีการปฏิบัติ อันไหนที่เร่งได้ตนก็เร่ง ขอบคุณทุกคนขอให้ทุกคนปลอดภัยจากโควิด และผ่านเวลาอันยากลำบากไปด้วยกันพร้อมกับรัฐบาล ด้วยความร่วมมือร่วมใจซึ่งกันและกัน ทุกมาตรการที่ออกมาเป็นเรื่องการทำงานของรัฐบาลทั้งสิ้น กับคณะทำงานต่างๆ ทั้งตน รองนายกฯ รัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหารือร่วมกันมาโดยตลอด มีการประชุมถึงได้มีมาตรการเหล่านี้ออกมา อื่นๆ เราก็เดินหน้าต่อไปเป็นระยะ ตอนนี้ขอดู 2 เดือนนี้ก่อน และหามาตรการบรรเทาความเดือดร้อน ขอให้มีความสุข และปลอดภัย สวัสดี