ดาวโจนส์ปิดตลาดวันแรกปีใหม่ ร่วง 382 จุด กังวลไบเดนขึ้นภาษีคน รวย




.ตลาดกังวลนโยบายไบเดนขึ้นอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสู่ระดับ 28% จากระดับ 21% ในปัจจุบัน
.ชี้หากเดโมแครตครองอำนาจเบ็ดเสร็จมีโอกาสเกิกขึ้นสูง
.นักลงทุนกังวลโควิด-19ยังรุนแรง-ติดเชื้อใหม่พุ่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 4 ม.ค.ที่ 30,223.89 จุด ลดลง 382.59 จุด หรือ -1.25% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,700.65 จุด ลดลง 55.42 จุด หรือ -1.48% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 12,698.45 จุด ลดลง 189.84 จุด หรือ -1.47%

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงในวันเดียวที่หนักที่สุดในรอบเกือบ 10 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลการผลักดันนโยบายเพิ่มภาษีคนรวยเพื่อช่วยคนจนของนายโจ ไบเดน โดยเขาจะยกเลิกมาตรการปรับลดอัตราภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยการปรับขึ้นอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสู่ระดับ 28% จากระดับ 21% ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ นายไบเดนจะปรับเพิ่มภาษีของครัวเรือนที่มีรายได้มากกว่า 400,000 ดอลลาร์ต่อปี โดยมีการคาดการณ์ว่าการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวจะช่วยให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้น 4 ล้านล้านดอลลาร์ภายในเวลา 10 ปี

ทังนี้ หากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจียวันนี้ (5 ม.ค.) จะทำให้ทางพรรคสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งจะมรการประกาศรับรองประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 6ม.ค. ซึ่งทั้งหมดจะทำให้การผลักดันมาตรการปรับขึ้นภาษีภายใต้รัฐบาลของนายโจ ไบเดน เป็นไปได้ง่ายขึ้น และจะกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐ โดยข้อมูลล่าสุดจาก Worldometer สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 21,113,528 ราย และมีผู้เสียชีวิต 360,078 ราย โดยสหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดของโลก

หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 5.29% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทแบร์สเติร์นได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นโบอิ้งลงสู่ระดับ “underperform” เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับกระแสเงินสดหมุนเวียนของโบอิ้ง

ขณะทีรดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ร่วงลงหนักสุดถึง 3.29% อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานขยับขึ้น 0.13%

หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 3.42% ปิดทำนิวไฮ หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2563 ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์

หุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 2.1% ขณะที่หุ้นบริษัทจีนรายอื่นๆที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเป็นส่วนใหญ่ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กประกาศถอดถอนบริษัทสื่อสารรายใหญ่ของจีน 3 แห่งออกจากตลาด ซึ่งได้แก่ ไชน่าเทเลคอม, ไชน่าโมบายล์ และไชน่ายูนิคอม (ฮ่องกง)

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนต.ค. ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 57.1 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2557 จากระดับ 56.7 ในเดือนพ.ย.