

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า บริษัทแอสต้าเซนาก้า (AstraZeneca) ผู้ผลิตยาจากประเทศอังกฤษระบุว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ควรมีประสิทธิภาพกับการต้านไวรัสโควิดที่กลายพันธุ์ โดยกำลังเร่งดำเนินการเพื่อตรวจสอบผลกระทบของการกลายพันธุ์อย่างเต็มที่
โดยวัคซีน AZD1222 ของ AstraZeneca มีสารพันธุกรรมของโปรตีนต่อต้านไวรัส SARS-CoV-2 และการเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมที่เห็นในไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนโครงสร้างของโปรตีนดังกล่าว” ตัวแทนของบริษัทระบุในอีเมล
ทั้งนี้บรรดาผู้ผลิตยากำลังช่วงชิงการทดสอบวัคซีนต้านโควิด-19 ของตนกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธ์ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วซึ่งกำลังระบาดในอังกฤษซึ่งเป็นความท้าทายล่าสุดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด
“ด้วยการฉีดวัคซีน AZD1222 ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะได้รับการฝึกฝนให้รู้จักส่วนต่างๆของโปรตีนเพื่อที่จะสามารถกำจัดไวรัสได้หากสัมผัสได้ในภายหลัง” ตัวแทนของ AstraZeneca กล่าว
การกลายพันธุ์ของโควิด-19 ในประเทศอังกฤษนี้ ถูกเรียกว่าเชื้อสาย “B.1.1.7” อาจทำให้แพร่ระบาดได้เร็วขึ้นถึง 70% และเป็นปัญหาสำหรับเด็ก ๆ มันทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในขึ้น
ยังผลให้ ประเทศต่าง ๆ เกือบ 40 แห่งทั่วโลกในยุโรป เอเชีย อเมริกาใต้ และตะวันออกกลาง ประกาศห้ามหรือจำกัดการเดินทางจากอังกฤษ เพื่อยับยั้งการแพร่กระบาดที่กลายพันธุ์ใหม่ และในบางประเทศห้ามไปถึงประเทศใกล้เคียงกัน
ก่อนหน้านี้อังกฤษ ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 ในกรุงลอนดอน และพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ตั้งแต่วันที่19 ธ.ค. ที่ผ่านมา และกวดขันชาวอังกฤษทั้งหมดไม่ให้ละเมิดมาตรการในช่วงใกล้เทศกาลส่งท้ายปี
วัคซีนต้านของ AstraZeneca ถือว่ามีความสำคัญสำหรับประเทศที่มีรายได้ต่ำและในสภาพอากาศร้อนเนื่องจากมีราคาถูกกว่าขนส่งง่ายกว่าและสามารถเก็บไว้ได้นานในอุณหภูมิตู้เย็นปกติ
ข้อมูลจากการทดลองระยะสุดท้ายของ AstraZeneca ในอังกฤษและบราซิลที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนนี้แสดงให้เห็นว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ 62% สำหรับผู้เข้าร่วมการทดลองที่ได้รับปริมาณเต็มสองครั้ง แต่ 90% สำหรับกลุ่มย่อยที่มีขนาดเล็กลงครึ่งหนึ่งจ
รอยเตอร์รายงานเมื่อวันอังคารว่าอินเดียมีแนวโน้มที่จะอนุมัติวัคซีนของ AstraZeneca สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินภายในสัปดาห์หน้า