

- นักลงทุนเทขายหุ้นกังวลหลังอังกฤษพบโควิด-19 สายพันธ์ุใหม่ข้ามไปออสเตรเลียแล้ว
- เมินข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตกลงกันได้แล้ว
- นักวิเคราะห์เชื่อหุ้นสหรัฐดิ่งต่อ ปีีนี้ไม่มีซานต้า แรลลี่ดันราคาหุ้น เหตุซานต้าติดโควิด-19
เมื่อเวลา 22.10 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 29,890.84 จุด ลดลง 288.21 จุด หรือ -0.96% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,571.62 จุด ลดลง 184.02 จุด หรือ -1.44% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,652.84 จุด ลดลง 56.57 จุด หรือ -1.53%
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะทรุดตัวลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้แกนนำในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่งให้สภาครองเกสพิจารณาในวันนี้ โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกมากกว่า 77 ล้านราย โดยผู้ติดเชื้อในสหรัฐมีมากกว่า 18 ล้านราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์ระบุว่า การดีดตัวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่มักเกิดขึ้นในช่วงสิ้นปี หรือที่มักเรียกว่า “ซานต้า แรลลี่” อาจจะไม่เกิดขึ้นในปีนี้ เพราะปีนี้ซานต้าติดโควิด โดยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในรอบใหม่นี้ ทำให้หลายประเทศต้องกลับมาทำการล็อกดาวน์รอบใหม่ นอจากนั้น ตลาดหุ้นสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะที่มีแรงซื้อมากเกินไปแล้ว หลังจากเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยผลการสำรวจของแบงก์ ออฟ อเมริกาพบว่า ผู้จัดการกองทุนได้ทำการลงทุนใกล้เต็มพอร์ตแล้ว และนักลงทุนสถาบันได้ลดการถือเงินสดในพอร์ตลง
ทั้งนี้ ในหลายๆ ปีที่ผ่านมา ซานต้า แรลลี่ของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่ โดยจากการรวบรวมสถิติการปรับตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วง 7 วันของซานต้า แรลลี่ พบว่า ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดในแดนบวกถึง 78% นับตั้งแต่ปี 2471 หรือในช่วงเวลากว่า 90 ปีที่ผ่านมา
รายงานพบการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ ซึ่งส่งผลให้หลายประเทศประกาศระงับเที่ยวบินจากอังกฤษ และล่าสุดตรวจพบสายพันธุ์ดังกล่าวในออสเตรเลียแล้ว ทำให้มีความวิตกว่าวัคซีนที่มีอยู่ในขณะนี้จะไม่สามารถต้านทานโควิดที่กลายพันธุ์อย่างรวดเร็วได้
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ประกาศยกระดับมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 สู่ระดับ tier 4 จากเดิมที่ระดับ tier 3 ซึ่งจะใกล้เคียงกับมาตรการล็อกดาวน์ที่เคยประกาศใช้เมื่อเดือนพ.ย. หลังพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่เชื้อรวดเร็วกว่าเดิมถึง 70%