

- พาณิชย์ดิ้นประชุมเอกชน-เกษตรกรหาทางแก้ปัญหาด่วน
- พ่อค้าเล็งออกราคาแนะนำซื้อหัวมันสดไม่ต่ำกว่าโลละ 2.5 บาท
- ชาวไร่มันลั่นถ้าราคายังไม่ปรับขึ้นหยุดขุดมันทั้งประเทศแน่
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะไปตลาดจีน พบว่า ปัจจุบันราคาส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไม่สอดคล้องกับกลไกตลาด แม้ว่าความต้องการมีมากขึ้น เพื่อนำไปทำเป็นแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ส่งผลให้ราคาหัวมันสดในประเทศยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกัน ชาวไร่มันสำปะหลัง ได้ร้องเรียนว่า ราคารับซื้อมันสำปะหลังในประเทศปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมจึงได้จัดประชุม 3 ฝ่าย คือ รัฐ เอกชน และเกษตรกร โดยหารือกับ 4 สมาคมมันสำปะหลัง ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงตัวแทนเกษตรกรจากสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย สภาเกษตรกร เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

ส่วนนายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวว่า 4 สมาคมมันสำปะหลัง เห็นตรงกันที่จะกำหนดราคาแนะนำสำหรับการรับซื้อหัวมันสดจากเกษตรกรที่กิโลกรัม (กก.) ละไม่ต่ำกว่า 2.50 บาท ที่เชื้อแป้ง 25% เพื่อช่วยให้เกษตรกรขายหัวมันสดได้ในราคาที่เป็นธรรม จากปัจจุบันราคาอยู่ที่กก.ละ 2.20-2.30 บาท ซึ่งจะส่งผลให้สมาชิกของทั้ง 4 สมาคมควรรับซื้อหัวมันสดจากเกษตรกร เชื้อแป้ง 25% ในราคาไม่ต่ำกว่า 2.50 บาท หากไม่ดำเนินการตาม ทั้ง 4 สมาคม อาจมีมาตรการดำเนินการกับสมาชิก ส่วนการที่ราคาหัวมันสดขณะนี้ยังอยู่ในระดับต่ำเป็นเพราะผู้ซื้อจากจีน รับซื้อมันเส้นจากไทยในราคาต่ำ เพราะที่ผ่านมา จีนใช้ข้าวโพดในประเทศทำเอทานอล และแอลกอฮอล์ จึงนำเข้ามันเส้นน้อย และซื้อราคาต่ำ แต่ขณะนี้ ผลผลิตข้าวโพดของจีนเริ่มน้อยลง และกลับมานำเข้ามันเส้นจากไทยมากขึึ้น น่าจะทำให้ราคาส่งออกขยับสูงขึ้นได้ และทำให้ราคารับซื้อหัวมันสดสูงขึ้นตาม
ด้านนายรังษี ไผ่สอาด นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน ชาวไร่มันสำปะหลัง ขายผลผลิตได้ในราคาไม่เป็นธรรม โดยยังขายได้ในราคาต่ำ ไม่สอดคล้องกับกลไกตลาดที่ความต้องการใช้สูงขึ้นมาก แต่ผลผลิตในประเทศลดลง ล่าสุดขายได้ที่กก.ละเพียง 2.10 บาท หักค่าขนส่งกก.ละ 30 สตางค์ จะขายได้เพียงกก.ละ 1.80 บาทเท่านั้น ทั้งๆ ต้นทุนเฉลี่ยกก.ละ 2.30 บาท หากยังเป็นเช่นนี้อีกต่อไป ชาวไร่มันสำปะหลังทั่วประเทศกว่า 540,000 ครัวเรือน หยุดการขุดหัวมันออกมาขาย หรือขุดเท่าที่จำเป็นออกมาขาย
นอกจากนี้ เกษตรกรยังเผชิญปัญหาภัยแล้ง โรคใบด่างระบาดในพื้นที่เพาะปลูก 31 จังหวัด ส่งผลให้ผลผลิตลดลงมาก ขณะนี้เหลือไม่ถึง 2.5 ตันต่อไร่ จากปกติที่ควรจะเกิน 3 ตันต่อไร่ ทำให้ต้องขาดทุน ส่วนโครงการประกันรายได้ ก็ไม่สามารถชดเชยรายได้ให้ชาวไร่ได้ทั้งหมด เพราะรัฐบาลจำกัดปริมาณไว้ไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน ซึ่งคิดเป็น 30% ของมันสำปะหลังที่เกษตรกรปลูกได้เท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ต้องนำไปขายในตลาดเอง
“เกษตรกรกำลังเดือดร้อนจากกลไกตลาดที่ไม่เป็นธรรม เพราะขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังยังส่งออกได้ดี และต่างประเทศมีความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงนี้โควิดระบาด เพื่อนำมันไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์ แต่ทำไมเกษตรกรยังขายไม่ได้ราคา และถูกกดราคารับซื้ออยู่ ดังนั้น ช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.64 ซึ่งจะมีมันสำปะหลังออกมาก จะขอให้ชะลอขุดมันออกขายก่อน 3 เดือน เพราะมันเก็บได้ถึง 2 ปี และหากสถานการณ์ไม่ดี คงเลิกปลูกไปเลย โดยราคาที่ชาวไร่มันต้องการที่กก. 2.50 บาท”