ดาวโจนส์ขยับเพิ่มกว่า 100 จุด เฟดคาดปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐ โตดีกว่าคาด



.เฟดคาดเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวเพียง 2.4% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว 3.7%
.ตลาดติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซื้อหุ้นเก็งกำไรเศรษฐกิจฟื้น
.ตลาดแรงงานนังน่าวิตก ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 885,000 ราย

เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 30,275.74 จุด เพิ่มขึ้น 121.20 จุด หรือ +0.40% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,725.01 จุด เพิ่มขึ้น 66.83 จุด หรือ +0.53%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,715.91 จุด เพิ่มขึ้น 14.74 จุด หรือ +0.40%

ตลาดได้แรงหนุนจากการมุมมองที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงเพียง 2.4% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว 3.7% ก่อนที่จะมีการขยายตัว 4.2% ในปี 2564 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 4% และจะขยายตัว 3.2% ในปี 2565 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3%

ทัั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ในวันที่ 15-16 ธ.ค.ที่ผ่านมา เฟดมีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวานนี้ โดยเฟดระบุว่าจะยังคงใช้เครื่องมือทุกอย่างในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และยังคงจะซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงินรวม 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนเท่ากับช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่ล่าสุดธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้ โดย BoE มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.10% ขณะที่ BoE ยังประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8.95 แสนล้านปอนด์ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลต่อผลกระทบที่มีต่อภาคแรงงาน ขณะที่ยังจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการอนุมัติกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่

โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในวันนี้ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 885,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 800,000 ราย จากระดับ 862,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.9 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ภาคธุรกิจปิดกิจการ และมีการปลดพนักงานจำนวนมาก