

- กรมสรรพากรยังเก็บรายได้สูงกว่าเป้า3.4%
- “สรรพสามิต-กรมศุล”จัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิเดือนต.ค.2563 รัฐบาล จัดเก็บรายได้สุทธิจำนวน 167,358 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณที่ตั้งไว้ 15,487 ล้านบาท หรือต่ำกว่าเป้าหมาย 8.5 % และเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้วจัดเก็บได้ต่ำกว่าปีก่อน 73,712 ล้านบาท หรือ 30.6%
“การจัดเก็บรายได้ที่ต่ำกว่าประมาณการ เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่หดตัว เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการดำเนินนโยบายและมาตรการทางภาษีเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนและผู้ประกอบการ จึงส่งผลทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีลดลงตามไปด้วย”
นอกจากนี้ ผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในเดือนต.ค.ที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมากนั้น เนื่องจากในเดือนต.ค.2563 การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจกลุ่มพลังงานลดลงตามผลประกอบการในปี 2563 ประกอบกับปัจจัยฐานสูงในปีก่อนหน้า เนื่องจากในเดือนต.ค.2562 มีการนำ ส่งรายได้รัฐวิสาหกิจเหลื่อมมาจากปีงบประมาณ 2562 และมีการปรับเปลี่ยนวิธีการชำระภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ทำให้เดือนต.ค.2562 มีการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิสูงกว่าปกติ
สำหรับ 3 กรมภาษีที่มีความสำคัญต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ในเดือนต.ค.ปรากฏว่า กรมสรรพากร สามารถจัดเก็บได้107,690 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 3.4% กรมสรรพสามิต จัดเก็บได้ 46,429 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 5.3% และกรมศุลกากร จัดเก็บได้ 7,948 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 6.5%
ส่วนการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ ในเดือนต.ค.อยู่ที่ 18,539 ล้านบาท นำส่งรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายถึง 45.7% ขณะที่หน่วยงานอื่นๆ ที่มีรายได้ต้องนำส่งรัฐบาล นำส่งรายได้ 14,388 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 20.7%