อย่าลืม! คลังเตือนคนลงทะเบียน “คนละครึ่ง” วันที่ 19 พ.ย.รีบใช้จ่ายภายใน 14 วัน



  • ล่าสุดมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 9.49 ล้านคน
  • ยอดใช้จ่ายในโครงการพุ่งถึง 28,609 ล้านบาท
  • ร้านค้า-ประชาชนทุจริตโดนดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงินสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลังได้เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการกระตุ้นการบริโภค หรือ คนละครึ่ง ว่า ณ วันที่ 27 พ.ย. 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 850,000 ร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 9.49 ล้านคน

โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 28,609 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินที่ประชาชนจ่าย 14,599 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 14,010 ล้านบาท โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ

สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนในเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2563 และได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว ขอให้รีบติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” พร้อมยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย โดยขอให้เริ่มใช้สิทธิในการใช้จ่ายโดยเร็วภายใน 14 วัน  นับจากวันถัดจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ เพื่อให้สามารถใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2563

“กระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทยมีการติดตาม และตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ โดยได้ระงับสิทธิการใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” และระงับการจ่ายเงินให้แก่ร้านค้าที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการคนละครึ่งอย่างต่อเนื่อง”

นอกจากนี้ยังมีการนำส่งข้อมูลหลักฐานการกระทำความผิดให้แก่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อใช้สำหรับการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการ และอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่เป็นการดำเนินการผิดเงื่อนไขโดยไม่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้าจริงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดซึ่งจะมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องไปด้วย