ลาออกคือทางออกที่ใช่!…โฆษกเพื่อไทย ลั่น “พล.อ.ประยุทธ์” คือภาระ เป็นสลักระเบิดที่ดึงให้สถานการณ์แย่ลง



น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการชุมนุมที่ธนาคารไทยพาณิชย์ในวันนี้ว่า การเตรียมการป้องกันด้วยเครื่องมือต่างๆ ของรัฐบาล ถือเป็นการเดินหน้าเพื่อสกัดกั้นการแสดงออกอย่างสันติโดยไม่สนใจข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม ทั้งนี้รัฐบาลต้องเรียนรู้เพื่อถอดบทเรียนจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สั่งการ ในการสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

น.ส.อรุณี กล่าวต่อว่า แม้วันนี้รัฐบาลพยายามเสนอทางออกประเทศ แต่ก็มองว่าเต็มไปด้วยความจอมปลอมและยื้อเวลา ด้วยการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ 21 คน 7 ฝ่าย ในขณะเดียวกันยังมีความพยายามสกัดกั้นการชุมนุมต่อเนื่อง ยืนยันได้จากเอกสารลับของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงกระทรวงมหาดไทย ที่ให้ดูแลการระดมมวลชนร่วมชุมนุมในช่วงวันที่ 23-27 พ.ย.นี้ รวมถึงการจับกุม นายปิยรัฐ จงเทพ หัวหน้าการ์ดคณะราษฎร 63 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเจรจา เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกัน แต่รัฐบาลยังใช้กฎหมายทุกมาตราอย่างเข้มงวดจับกุมผู้ชุมนุม ซึ่งก็ยิ่งทำให้เกิดความหวาดระแวงต่อกันมากขึ้น 

“สิ่งที่สำคัญที่ผู้ชุมนุมเรียกร้อง คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ต้องลาออกเท่านั้น” น.ส.อรุณี กล่าว

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเสนอทางออกกรณีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ ได้แก่ 1.รัฐบาลต้องมีความจริงใจในการรับฟังข้อเรียกร้องที่แท้จริงของประชาชน 2.รัฐบาลต้องหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ กรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละละเลยให้เกิดม็อบชนม็อบ สลายการชุมนุมโดยใช้สารเคมีรุนแรงหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ผ่านมา 3.พล.อ.ประยุทธ์ คือภาระและเป็นสลักระเบิด ดึงให้สถานการณ์มาถึงจุดนี้ ต้องลาออกทันที

“หากรัฐบาลดำเนินการตามข้อเสนอนี้ จะทำให้บรรยากาศการเมืองเดินหน้าได้ พรรคเพื่อไทยยังยืนยันว่า รัฐบาลควรฟังเสียงประชาชน และไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่ในสภา เพื่อเดินหน้าทวงถามความจริง และหาทางออกที่สันติให้กับประเทศต่อไป” น.ส.อรุณี กล่าว