
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากที่การบินไทยประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนบริษัทต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา บริษัทยังมีการจัดเที่ยวบินขนส่งสินค้า การจัดเที่ยวบินรับคนไทยจากต่างประเทศกลับบ้าน การหารายได้จากการขายอาหารของฝ่ายครัวการบิน และการขายของที่ระลึก Thai Shop ซึ่งก็ไม่สามารถเทียบกับรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารได้
ทั้งนี้บริษัทจึงดำเนินโครงการร่วมใจเสียสละเพื่อองค์กร ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้พนักงานร่วมใจเสียสละ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและยืดกระแสเงินสดออกไปให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการแสดงความมุ่งมั่นของการบินไทยในการปรับตัวอย่างเข้มข้น เพื่อรองรับแผนฟื้นฟูในอนาคต โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 19-28 ต.ค. 2563 แบ่งเป็นโครงการร่วมใจจากองค์กร (MSP A) เป็นการลาออกจากบริษัทฯ หากได้รับการอนุมัติฯ จะมีผลวันที่ 1 ธ.ค. 2563 และโครงการลาระยะยาว (Leave with 20% pay หรือ LW20) ซึ่งพนักงานจะได้รับเงินรายเดือนในอัตราร้อยละ 20 ตลอดระยะเวลา6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2563-30 เม.ย. 2564 จากนั้นจึงมีสิทธิสมัครเข้าร่วมโครงการร่วมใจจากองค์กร (MSP B) ซึ่งจะเปิดรับสมัครประมาณเดือนมี.ค. 2564 และหากได้รับการอนุมัติฯ จะมีผลวันที่ 1 พ.ค. 2564
นายชาญศิลป์ กล่าวว่า บริษัทได้สื่อสารกับพนักงานอย่างต่อเนื่อง ชัดเจน และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพนักงาน ซึ่งถือว่าพนักงานเป็นผู้เสียสละ ทั้งผู้ที่เสียสละเข้าร่วมโครงการ และผู้ที่เสียสละอยู่กับการบินไทยต่อไป เพื่อนำพาให้การบินไทยก้าวไปข้างหน้า พ้นจากปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าวนี้ มีพนักงานตอบรับเข้าร่วมโครงการจำนวน 4,977 คน โดยเป็นการร่วมใจจากองค์กร (MSP A) 1,918 คน ร่วมโครงการลาระยะยาว (LW20) จำนวน 2,699 คน และเข้าร่วมแบบทั้ง 2 โครงการ ( LW20&MSP A) 360 คน โดยปัจจุบันการบินไทยมีพนักงานทั้งสิ้นประมาณ 20,000 คน










