

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.)เปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลลอยกระทงปีนี้ ทอท.ขอความร่วมมือประชาชนงดหรือหลีกเลี่ยงการปล่อยโคมลอย โคมควัน ดอกไม้ไฟ แสงเลเซอร์ อากาศยานไร้คนขับ (Drone) ในเขตโดยรอบสนามบินทั้ง 6 แห่งสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินเชียงใหม่ สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย สนามบินภูเก็ต และสนามบินหาดใหญ่ ช่วงเทศกาลลอยกระทง ระหว่าง 31 ต.ค. – 1 พ.ย. 63 เพื่อมิให้เกิดอันตรายต่ออากาศยาน ผู้โดยสาร และประชาชน
ทั้งนี้สำหรับพื้นที่นอกเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ขอให้ผู้ที่ต้องการปล่อยโคมลอยฯ ตรวจสอบรายละเอียดในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครหรือประกาศจังหวัดที่ต้องการจะปล่อย ซึ่งจะระบุรายละเอียดของพื้นที่ที่สามารถอนุญาตปล่อยได้ โดยในการจะปล่อยนั้นต้องดำเนินการขออนุญาตล่วงหน้าจากผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอในพื้นที่นั้นๆล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน โดยในเขตพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับความนิยมในการปล่อยโคมลอยฯ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศไม่อนุญาตให้มีการจุดและปล่อยโคมลอยฯ ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศอย่างเด็ดขาดในพื้นที่ 5 อำเภอ คือ (1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ ทุกตำบล (2) อำเภอหางดง ทุกตำบล (3) อำเภอสารภี ใน 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลขัวมุง ดอนแก้ว ท่าวังตาล และหนองผึ้ง (4) อำเภอแม่ริม ใน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลดอนแก้ว ริมใต้ และแม่สา และ (5) อำเภอสันทราย 1 ตำบล คือ ตำบลหนองหาร

สำหรับพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ได้กำหนดให้ปล่อยโคมลอยฯ ได้ในคืนวันที่ 31 ต.ค.และ 1 พ.ย. 63 ระหว่างเวลา 19.00 – 01.00 น. โดยต้องแจ้งขออนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ก่อน 15 วัน หลังจากได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ ต้องแจ้ง สนามบินเชียงใหม่ หรือศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ก่อน 7 วัน เพื่อจะได้ออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันดังกล่าวมีสายการบินต่างๆ พิจารณาปรับเปลี่ยนเวลาทำการบินเพื่อลดความเสี่ยง และหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอยฯ โดยมีเที่ยวบินที่แจ้งยกเลิก 25 เที่ยวบิน และเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน 57 เที่ยวบิน รวมทั้งสิ้น 82 เที่ยวบิน