- กขค.คลอดไกด์ไลน์ฟู้ด ดีลิเวอรี่แล้วมีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้
- แพลตฟอร์มไหนเอาเปรียบมีโทษปรับ 10% ของยอดขาย
- มั่นใจเกิดการค้าที่เป็นธรรม ร้านอาหารไม่ถูกเอาเปรียบ
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้า ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาแนวปฏิบัติการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.63 คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้เห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบธุรกิจให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มรับและส่งอาหารกับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร หรือ ไกด์ไลน์ฟู้ด ดีลิเวอรี่ เรียบร้อยแล้ว ภายหลังจากได้โดยได้รวบรวมข้อมูล ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จากการเปิดประชาพิจารณ์ผ่านทางเว็บไซต์ และจัดสัมมนา มาปรับปรุงใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ทันทีหลังประกาศลงราชกิจจานุเบกษา
“ไกด์ไลน์ฉบับนี้เน้นดูแลการประกอบธุรกิจฟู้ด ดีลิเวอรี่อย่างเป็นธรรม หลังจากที่ผ่านมา กขค.ได้รับร้องเรียนปัญหาระหว่างผู้ให้บริการแพลตฟอร์มกับร้านค้าอาหารมาอย่างต่อเนื่อง เช่น แพลตฟอร์มรายใหญ่บางราย เรียกเก็บค่าส่วนแบ่งรายได้ (จีพี) สูงกว่าแพลตฟอร์มรายอื่นที่เก็บเฉลี่ย 30-35% แพลตฟอร์มบางรายห้ามร้านอาหารที่อยู่ในแพลตฟอร์ จำหน่ายอาหารผ่านแพลตฟอร์มอื่น ซึ่งขณะนี้ กขค.อยู่ระหว่างสอบสวนอยู่ หากพบว่า แพลตฟอร์มที่มีพฤติกรรมเอาเปรียบ จะมีความผิดตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้าพ.ศ.2560 มาตรา 57 โดยจะโทษปรับสูงสุด 10% ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด”
สำหรับสาระสำคัญของร่างไกด์ไลน์ ฟู้ด ดีลิเวอรี่ ที่ผ่านความเห็นชอบจาก กขค.แล้ว จะเน้นดูแลพฤติกรรมของผู้ประกอบการแพลตฟอร์ ไม่ให่เอาเปรียบทางการค้า จนอาจทำให้ร้านอาหารเสียหาย ได้แก่ การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายค่าตอบแทน หรือผลประโยชน์อื่นที่ไม่เป็นธรรม โดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารทราบล่วงหน้าถึงเหตุผลการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาที่เหมาะสม เช่น ค่าจีพี ค่าธรรมเนียมการโฆษณา ซึ่งร้านอาหารไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ตกลงไว้ ค่าส่งเสริมการขายในโอกาสพิเศษ หรือโปรโมชั่น และค่าใช้จ่ายอื่นที่ไม่เคยเรียกเก็บมาก่อน
นอกจากนี้ ยังกำหนดข้อห้ามเกี่ยวกับการกำหนดเงื่อนไขการค้าอันเป็นการจำกัด หรือขัดขวางการประกอบธุรกิจของผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรม เช่น การบังคับร้านอาหาร ห้ามจำหน่ายอาหารแพลตฟอร์มของผู้ประกอบธุรกิจให้บริการดิจิทัลอื่น ขณะเดียวกัน ยังดูแลการใช้อำนาจตลาด หรืออำนาจต่อรองที่เหนือกว่าอย่างไม่เป็นธรรม เช่น การแทรกแซงการกำหนดราคาของร้านอาหาร การบังคับด้านราคาที่ต้องขายเท่ากันในทุกช่องทาง การประวิงเวลาจ่ายค่าสินค้า การยกเลิกสัญญา หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญา โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร รวมถึงการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาสัญญาโดยไม่แจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน
