

- ตั้งเป้าคนไทย ต้องได้รับวัคซีนเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
- พร้อมผลักดันประเทศไทย ให้เป็นผู้นำด้านสุขภาพ ติดอันดับ 1 ใน 3 ของเอเชีย
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิด ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ร่างกายแข็งแรง และทำให้เศรษฐกิจของประเทศแข็งแรง โดยมีผลงานที่สำคัญอันได้แก่ 1.การพัฒนางานด้านสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริ และโครงการในพระบรมวงศานุวงศ์ สนับสนุนโครงการสุขศาลาพระราชทานพัฒนางานสาธารณสุขในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ 2.เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ มีการพัฒนาโรงพยาบาลจตุรทิศใน 5 จังหวัดรอบกรุงเทพฯ เพื่อลดความแออัดโรงพยาบาลในเมืองหลวง ประกอบด้วย จ.นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการสมุทรสาคร และนครปฐม
3.พัฒนานวัตกรรมการแพทย์ เดินหน้านโยบาย TELEMEDICINE ดูแลผู้ป่วยด้วยระบบสื่อสารทางไกล 4.ยกระดับสมุนไพรไทย และการแพทย์แผนไทย เพื่อเป็นอีกทางเลือกในการรักษา ซึ่งประสบความสำเร็จมีผู้ใช้บริการมากกว่า27 ล้านครั้ง นอกจากนี้ ยังมีนโยบายกัญชาทางการแพทย์ที่มีการเปิดคลินิกกัญชามากกว่า 300 แห่ง มีผู้ใช้บริการมากกว่า 2 แสนราย 5.เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการผ่านนโยบายเชิงรุก อาทิ สามารถสร้างเครือข่ายของการบริการปฐมภูมิ ดูแลคนไทย 13 ล้านคน ยกระดับอสม.ประจำให้เป็นหมอประจำหมู่บ้าน และมีการทำงานร่วมแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้สาธารณสุขไทย
6.สร้างขวัญกำลังใจให้บุคลากรกระทรวงสาธารณสุข มีการบรรจุข้าราชการ 45,684 อัตรา มีการขยายค่าตอบแทนพิเศษให้อสม.เดือนละ 500 บาท และ 7.แบนสารพิษ ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และจำกัดการใช้ไกรโฟเซตขณะที่การดำเนินงานที่สำคัญ คือการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ ในการป้องกัน และรักษา
นอกจากนี้ยังมีการตั้งเป้าว่าคนไทยจะต้องได้รับวัคซีนเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยผลการดำเนินการดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับวิกฤติครั้งนี้ ผลงานที่ผ่านมาทำให้กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมผลักดันประเทศไทยให้เป็นผู้นำด้านสุขภาพ ติดอันดับ 1 ใน 3 ของเอเชีย ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ความสำเร็จของโลกในอนาคต