บสย.เล็งรับประกันสินเชื่อข้ามประเทศ สำหรับธุรกิจที่คนไทยลงทุนในต่างประเทศ



  • ชี้ต้องแก้ไขกฎหมายของบสย. ก่อน
  • สนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจคนไทย
  • โดยเฉพาะอุตสากรรมที่เจริญเติบโตสูง

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไปบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)​กล่าวว่า ปัจจุบันบางอุตสาหกรรมของคนไทยในประเทศ เช่น อุตสาหกรรมเสื้อผ้า เป็นต้น ยังมีโอกาสในตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาด CLMV คือประเทศ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้ธุรกิจเหล่านั้นที่ถูกเรียกว่าเป็นอุตสาหกรรม sun set หรือ อุตสากรรมที่มีการเจริญเติบโตสูงต้องล้มหายตายจากไป

“การค้ำประกันข้ามประเทศ สำหรับสินเชื่อของคนไทยที่อาจไปลงทุนใน CLMV จะช่วยให้นักธุรกิจที่ต้องการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องมีการแก้ไขกฎหมายของ บสย. ที่ปัจจุบันจำกัดเฉพาะการกู้เงินในประเทศและลงทุนในประเทศเท่านั้นก่อน”

ส่วนการแก้ไขกฎหมายของ บสย.โดยจะกำหนดให้กรณีที่นักธุรกิจคนไทย กู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศไทย เพื่อนำไปลงทุนใน CLMV สามารถมาขอค้ำประกันสินเชื่อจาก บสย.ได้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้อยู่ที่การพิจารณาของ กระทรวงการคลัง

” การเข้าไปค้ำประกันสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอี (SMEs)​ที่ต้องการไปลงทุนในต่างประเทศ บสย.อาจไม่จำเป็นต้องรับความเสี่ยงของการค้ำประกันไว้ทั้งหมดก็ได้ เช่น หาก บสย.เก็บค่าธรรมเนียมการค้ำประกันได้ 2 บาท อาจจะให้ผู้ที่นำประกันไปประกันต่ออีกช่วง(re-insurance)​ ไปให้คนอื่น 1 บาท ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงออกไป จากปัจจุบันที่ บสย.รับความเสี่ยงเต็ม100 %”

ทั้งนี้หาก บสย.จะทำการค้ำประกันสินเชื่อให้กับ SMEs ที่ลงทุนในต่างประเทศ ก็สามารถร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ( EXIM BANK) ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐ ที่สนับสนุนการลงทุนของคนไทยในต่างประเทศอยู่แล้ว เพื่อให้ EXIM BANK เป็นกลไกในการช่วยดูแลร่วมกับ บสย.

อย่างไรก็ตามที่ผ่าน บสย.ดำเนินธุรกิจการค้ำประกันสินเชื่อในลักษณะปัจจุบันมา 30 ปี เหมืนเป็นการหาปลาในตลาดเดิมๆ ซึ่งในอนาคตอาจไม่จำเป็นต้องมี บสย.ก็ได้ เพราะอาจมีเครื่องมือบริหารความเสี่ยงอย่างอื่นที่ช่วยให้สถาบันการเงินลดความเสี่ยงในการปล่อยกู้ได้ ยกเว้นกรณีที่ต้องการปล่อยกู้ให้กับลูกค้าที่มีปัญหาเท่านั้น แต่ในกรณีที่ธนาคาร ไม่สามารถประเมินความเสี่ยงได้ เช่นเป็นการลงทุนในต่างประเทศ ก็อาจขอให้ บสย.ช่วยค้ำประกันให้

“ปัจจุบัน EXIM BANK มีธุรกิจการประกันความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ เช่น กรณี การลงทุนในต่างประเทศแล้ว โรงงานถูกปิดกิจการ EXIM BANK จะเข้าไปช่วยบรรเทาผลกระทบด้านรายได้ ในกรณีลูกค้าทำประกันกับ EXIM ด้วนการ แต่ไม่ได้ค้ำประกันสินเชื่อที่นำไปลงทุนสร้างโรงงานในประเทศนั้นๆ”

นอกจากนี้หากสามารถแก้ไขกฎหมาย บสย.ในประเด็นดังกล่าวได้จะทำให้ บสย.สามารถทำธุรกิจในด้านการป้องกันความเสี่ยง ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ไม่ใช่ เฉพาะในประเทศ