ป้องทุกช่องโหว่ “พล.อ.ประวิตร” สั่งเข้มให้ระมัดระวังช่วงสับเปลี่ยนกำลังพลพื้นที่ชายแดนใต้



  • เผยเสียใจต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุลอบวางระเบิดที่สงขลา
  • ด้าน พล.อ.ชัยชาญ ย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติเน้นการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ
  • ชี้กองทัพภาค 4 แม้ต้องดูแลชายแดนป้องลักลอบเข้าเมือง ก็ไม่กระทบรักษาความสงบในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 ต.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงเหตุลอบวางระเบิดรถสับเปลี่ยนกำลังพล กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 (ร 15 พัน 1 ) ที่ อ.เทพา จ.สงขลา ว่าตนได้รับรายงานแล้ว และขอแสดงความเสียใจต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้

โดยผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องรอยต่อในการสลับกำลังคนทำให้เกิดช่วงโหว่ทำให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายทำการวางระเบิด จะวามารถแก้ไขตรงจุดนี้อย่างไรบ้าง พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้รู้อยู่แล้วจะถามทำไม โดยตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายกำลังพล ที่อาจเป็นช่องโหว่ทำให้เกิดเหตุได้

ด้าน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช. กลาโหม กล่าวว่า ในช่วงสับเปลี่ยนกำลัง ทางกระทรวงกลาโหมได้มีการกำชับให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยหลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ได้เน้นย้ำไปอีกครั้งให้ทุกหน่วยกำกับดูแล เรื่องการปฏิบัติโดยเน้นการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ ในทุกเวลาของการปฏิบัติหน้าที่ 

“ขณะนี้ได้มีการประสานไปยัง พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เรียบร้อยแล้วว่า ให้เข้มงวดมาตรการด้านการข่าว และการรักษาความปลอดภัยทั้งหมด” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กองทัพภาคที่ 4 ต้องดูแลชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ในช่วงโควิดแพร่ระบาด จส่งผลกระทบต่อการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ภายในหรือไม่ พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า คงไม่มีปัญหา เพราะได้มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ทั้งเรื่องการสกัดกั้นบริเวณชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองรวมถึงเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ทั้งนี้ได้ปรับแผนรองรับให้เหมาะสมตามสถานการณ์ต่างๆอยู่ตลอดเวลา