รออีกนิด!…”รถไฟฟ้าเหลือง-ชมพู”มาถึงไทยแล้วปี 65 ได้ใช้พร้อมกันทั่วกรุง-ปริมณฑล

  • รฟม.เผยโฉมรถไฟฟ้าโมโนเรล ชมพู-เหลืองขบวนแรกส่งตรงจากจีนถึงท่าเรือแหลมฉบัง
  • พร้อมส่งมอบครบ30 ขบวนภายใน ปี64
  • ลุยทดสอบเตรียมพร้อมก่อนเปิดให้บริการภายในปี65

วันนี้ (1 ตุลาคม 2563) เวลา 11.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี รับรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สําโรง โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ,พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม และคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม นายสราวุธ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.),นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ผู้บริหารบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอก โมโนเรล จํากัด และบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จํากัด นําโดย นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) นายภาคภูมิ ศรีชํานิ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จํากัด (มหาชน) และนายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ราช กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) ผู้บริหารบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จํากัด พร้อมด้วยผู้บริหาร ส่วนราชการในท้องที่และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี

โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้ให้ความสําคัญใน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่งของประเทศ โดยกําหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี พร้อมทั้งได้ผลักดันให้เกิดโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายใหม่ๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการ แข่งขันทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนควบคู่กันไป ซึ่งโครงการรถไฟฟ้า สายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สําโรง ในความรับผิดชอบของ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ถือเป็นโครงการที่รัฐบาลได้ให้ความสนใจ เร่งรัดและติดตาม ความก้าวหน้าในการดําเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทั้งสองโครงการเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อเป็น “ทางเลือกใหม่” ในการเดินทางที่สามารถขนส่งผู้โดยสารจํานวนมากได้ในคราวเดียวกัน มีกําหนดเวลา ที่แน่นอน และมีมาตรฐานความ ปลอดภัยสูง ทั้งยังขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ซึ่งรัฐบาลคาดหวังว่า กระทรวงคมนาคม และ รฟม. จะทุ่มเทในการสร้างโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้ประสบความสําเร็จ ตามแผนงาน เพื่อเป็นต้นแบบสําหรับการพัฒนาโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในหัวเมืองภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะผู้บริหารได้ร่วมกันตัดริบบิ้นรับรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรกของโครงการรถไฟฟ้า สายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าไปอีกขั้นของโครงการ

นอกเหนือจาก งานก่อสร้าง เตรียมความพร้อมสู่การเปิดให้บริการแก่พี่น้องประชาชนในอนาคตอันใกล้นี้ รฟม. ได้ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ กับผู้รับสัมปทาน บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จํากัด (NBM) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ กับผู้รับสัมปทาน บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จํากัด (EBM) เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 60

โดยทั้งสองโครงการได้รับการออกแบบให้เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) แบบคร่อมราง บนทางวิ่งยกระดับเหนือแนวเกาะกลางถนน ทําหน้าที่เป็นระบบขนส่งมวลชนระบบรอง (Feeder) ป้อนผู้โดยสารเข้ารถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายหลัก ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ มีแนวเส้นทางพาดผ่านตอนเหนือของกรุงเทพฯ ในแนวตะวันตก – ตะวันออก จากถนนติวานนท์ ผ่านถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรามอินทรา ไปสิ้นสุดบนถนนสีหบุรานุกิจ ระยะทางรวม 34.5 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้าให้บริการรวม 30 สถานี มีจุดเชื่อมต่อไปยัง รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่สถานีหลักสี่ เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่สถานี มีนบุรี โดยมีอาคารจอดแล้วจร 1 แห่ง และศูนย์ซ่อมบํารุงฯ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีมีนบุรี

ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้า สายสีเหลืองฯ มีแนวเส้นทางพาดในแนวเหนือ – ใต้ ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ จากถนนลาดพร้าว ผ่านถนน ศรีนครินทร์ ไปสิ้นสุดบนถนนเทพารักษ์ ระยะทางรวม 30.4 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้าให้บริการรวม 23 สถานี มีจุดเชื่อม ต่อไปยังรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ําเงิน) ที่สถานีรัชดา เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และรถไฟสายตะวันออก ที่สถานีพัฒนาการ เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่สถานีแยกลําสาลี และเชื่อมต่อไปยัง รถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สถานีสําโรง โดยมีอาคารจอดแล้วจร 1 แห่ง และศูนย์ซ่อมบํารุงฯ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีศรีเอี่ยม

สําหรับรถไฟฟ้าซึ่งจะนํามาวิ่งให้บริการในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ เป็นรุ่น Bombardier Innovia Monorail 300 ควบคุมด้วยระบบอาณัติสัญญาณ CITYFLO 650 แบบไร้คนขับ ภายใน ห้องโดยสารของขบวนรถมีอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่างครบครัน อาทิ กล้อง CCTV เครื่องตรวจจับควัน ปุ่มติดต่อสื่อสารกับ เจ้าหน้าที่ควบคุมรถ ถังดับเพลิง และที่เปิดประตูฉุกเฉิน ฯลฯ โดยบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จํากัด จะทยอยส่งมอบรถไฟฟ้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ จํานวนรวม 42 ขบวน

และของโครงการ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ จํานวนรวม 30 ขบวน มายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จนครบจํานวนภายในปี 2564 พร้อมกันน้ี บริษัทผู้รับสัมปทานทั้งสองโครงการจะดําเนินการติดตั้งและทดสอบระบบเพื่อสร้างความมั่นใจ และเตรียมความพร้อม สําหรับการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในปี 2565 โดยในระยะแรกจะให้บริการด้วยรถไฟฟ้า 4 ตู้ต่อ 1 ขบวน รองรับ ผู้โดยสารได้ประมาณ 17,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง และในระยะต่อไปยังสามารถเพิ่มจํานวนตู้โดยสารได้สูงสุด 7 ตู้ต่อขบวน รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 28,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง

ทั้งนี้ รฟม. จะมุ่งมั่นผลักดันโครงการรถไฟฟ้า ทั้งสองสายนี้ ตลอดจนโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม เพื่อสร้างโครงข่ายการเดินทางที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและส่งเสริม การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน สามารถติดตามรายละเอียดและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ รฟม. www.mrta.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ Call Center รฟม. โทร. 0 2716 4044