

- นักธุรกิจหญิงสุดแกร่ง&เก่ง
- ผู้ say yes! กับทุกโอกาส
- เพื่อนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต
ในชีวิตเรามักจะต้องพบกับปัญหาต่างๆมากมายไม่ว่าจะการเรียนการทำงานชีวิตครอบครัวหรือแม้แต่ความรักซึ่งทุกคนก็มีวิธีรับมือกับปัญหาที่แตกต่างกันออกไปแล้วถ้าบางปัญหาเราหาทางออกไม่เจอหรือไม่รู้จะปรึกษาใครล่ะเราจะทำอย่างไร
วันนี้เรามีหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจให้ข้อคิดแนะแนวชีวิตจากประสบการณ์จริงของนักธุรกิจหญิงสุดแกร่งมาแนะนำนั่นก็คือ 100 ข้อคิดจากอิฐ 1 ก้อนโดย “กอบกาญจน์ สุริยสัตย์ วัฒนวรางกูร” ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทโตชิบาประเทศไทยเคยเป็นกรรมการธนาคารกสิกรไทยจากนั้นได้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและเมื่อหมดวาระก็กลับมารับตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทยผู้ say yes! กับทุกโอกาสเพื่อนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต
เป็นหนังสือที่คุณกอบกาญจน์ได้คัดสรร 100 ข้อคิดจากชีวิตจริงที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของเธอตั้งแต่เด็กทั้งคำสอนและแบบอย่างที่ดีจากคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวสิ่งที่พบเจอเมื่อไปเรียนต่างแดนการผันตัวมาทำงานที่ต่างจากสิ่งที่เรียนสิ่งที่ได้เมื่อเข้ามาทำงานที่กลุ่มบริษัทโตชิบาไทยแลนด์จนถึงปัจจุบัน

หนังสือเล่มนี้ยังออกในวาระพิเศษที่คุณกอบกาญจน์อายุ 60 ปีบริบูรณ์ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งภายในเล่มยังแบ่งออกเป็น 7 เส้นทางชีวิตของเธอผ่านข้อคิดหรือมุมมองที่ใช้ในการก้าวผ่านเรื่องราวต่างๆเพื่อเป็นแรงบันดาลใจและแนวทางการดำเนินชีวิตให้แก่ผู้อ่านทุกท่าน
แม้ภาพลักษณ์ที่คนมองคุณกอบกาญจน์จะดูเป็นหญิงแกร่งแต่ความจริงแล้วเธอเป็นคนที่อ่อนไหวมาก “น้ำตา” จึงเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตแต่เธอคิดเสมอว่าหากร้องไห้ออกมาแล้วพรุ่งนี้เช้าต้องลุกขึ้นมาและเดินหน้าต่อไป
นามสกุล “สุริยสัตย์” ที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่เกิดแปลว่า “ซื่อสัตย์ดั่งดวงอาทิตย์” ซึ่งได้รับพระราชทานมาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๖ตั้งแต่สมัยคุณปู่ที่ทำงานในกระทรวงกลาโหมยังขัดเกลาให้เธอได้เรียนรู้ว่า “เราจะซื่อสัตย์อย่างเดียวไม่ได้แต่ต้องรู้ทันคนด้วย” เธอจึงได้รับการถ่ายทอดความซื่อสัตย์และซื่อตรงมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่
ชีวิตของเธอยังได้ผ่านบททดสอบเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ตั้งแต่สมัยเรียนเพราะในห้องสอบไม่มีคุณครูมาคุมสอบและด้วยความยังเป็นเด็กในสมัยนั้นเธอและเพื่อนๆจึงอยากรู้อยากลองทุจริตดูแต่หลังจากสอบเสร็จเธอและเพื่อนๆกลับรู้สึกแย่เพราะคิดว่าคะแนนที่ได้มานั้นไม่ได้เกิดจากความสามารถที่แท้จริงของตัวเองสุดท้ายเธอและเพื่อนๆจึงตัดสินใจไปสารภาพกับคุณครูและรับบทลงโทษไป
คนเราทำผิดพลาดกันได้แต่ไม่ได้หมายความเราว่าจะต้องผิดไปตลอดชีวิตทุกอย่างขึ้นอยู่กับการคิดและการตัดสินใจของเราในเวลานั้นเท่านั้นเองและเราต้องเคารพตนเองก่อนและคนอื่นจะเคารพเรา
คนทุกคนล้วนเคยทำผิดพลาดกันทั้งนั้นแต่ถ้าเรากลับใจและพยายามปรับตัวก็ไม่มีคำว่าสายเกินไปไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ตามนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อคิดจากชีวิตของคุณกอบกาญจน์เราคงได้เห็นแล้วว่าไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์แต่เราเลือกที่จะทำทุกอย่างให้เต็มที่และดีที่สุดได้ในแบบของเราได้ตามช่วงเวลานั้น
ภายในหนังสือยังมีข้อคิดอีกมากมายทั้งตอนเจอปัญหาต้องพบวิกฤตเธอคิดอย่างไรจึงผ่านทุกเรื่องราวมาได้แม้ทุกคนจะมีแนวทางการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไปแต่เราก็หวังหนังสือเล่มนี้จะเป็นส่วนหนึ่งหรืออีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้ทุกคนสู้ต่อไปและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขดัง
คุณกอบกาญจน์เชื่อว่าทุกสิ่งที่เข้ามาล้วนดีเสมอเธอจึงเปิดรับทุกโอกาสด้วยคติที่ว่านำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต!