

- ลุยจ้างเอกชนเรียกเก็บเงิน “ใช้ก่อน-จ่ายสิ้นเดือน”
- แง้ม เชื่อมข้อมูลงานทะเบียนกรมการขนส่งทางบก
- ประสานตำรวจกำหนดโทษพวกเบี้ยวค่าทางด่วน-ต้องจ่ายก่อนต่อทะเบียน
- ด้าน “ศักดิ์สยาม” กลัวทัวร์ลง สั่ง ทล.-กทพ. โปรยยาหอม เยียวยาพนักงานเก็บค่าผ่านทาง หลังใช้ระบบ AI ทำงาน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อศึกษาและพัฒนาระบบเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ในรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน(Single Platform System) ร่วมกันระหว่างกรมทางหลวง(ทล.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (โทลล์เวย์)ว่า นโยบายยกเลิกไม้กั้นผ่านทางด่วน และ มอเตอร์เวย์ จะเริ่มเป็นรูปธรรมหลังเทศกาลปีใหม่ 64 โดยจะนำร่องมาใช้ที่ด่านมอเตอร์เวย์ทับช้างก่อน ซึ่งจะมีการยกตู้เก็บค่าผ่านทางออกทั้งหมด เพื่อนำระบบ M-Flow มาใช้เต็มรูปแบบ และภายในปี 64 ตลอดทั้งปี ก็จะนำกระบะใช้กับด่านมอเตอร์เวย์อื่นๆ ส่วนระบบทางด่วนของ กทพ.จะนำร่องมาใช้กับระบบทางด่วนสายฉลองรัช ก่อนที่จะขยายไปทางด่วนสายอื่นๆ โดยกระทรวงคมนาคมยืนยันว่าระบบดังกล่าวจะพบายามให้ครอบคลุมระบบทางด่วนทั้งหมดภายในปี 64
ส่วนกาารเชื่อมระบบฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บค่าผ่านทาง ซึ่งจำเป็นต้องใช้ข้อมูลฐานการจดทะเบียนรถยนต์ของกรมการขนส่งทางบกเข้ามาช่วยกำกับนั้น ทั้งทล. และกทพ.จะมีการว่าจ้างบริษัทกลางในการติดตาม การจัดเก็บค่าผ่านทาง หลังจากที่ระบบ M-Flow สมบูรณ์แล้ว ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่าแม้จะมีระบบไม้กั้นแต่การจัดเก็บค่าผ่านทางก็ยังมีส่วนหนึ่งที่ผู้ใช้ทางบางรายไม่ยอมจ่ายค่าผ่านทาง เช่นในส่วนทางด่วนของ กทพ. ในแต่ละวัน ก็จะมีผู้ที่ไม่ยอมชำระค่าผ่านทางเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 %ของผู้ใช้ระบบทางด่วนทั้งหมด ซึ่งบริษัทกลางที่มีลักษณะเหมือนเคลียริ่งเฮาส์นี้ จะติดตามเร่งรัดจัดเก็บ มีการออกใบแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ใช้ทางชำระ เหมือนระบบจัดเก็บค่าบริการใช้โทรศัพท์มือถือ

และในอนาคตหากมีการใช้ระบบ M-Flow หรือไม่มีไม้กั้นแล้ว การที่ผู้ใช้ทางไม่ยอมไปชำระค่าผ่านทาง ก็จะมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อกำหนดให้การไม่ยอมชำระค่าผ่านทางด่วนนั้น เป็นการกระทำผิดตามกฎหมายจราจรด้วย โดยสามารถเชื่อมโยงระบบร่วมกันระหว่างตำรวจและกรมการขนส่งทางบก เมื่อมีผู้ผ่านทางรายดังกล่าวมาต่อทะเบียน ก็จะทราบข้อมูลและต้องชำระค่าผ่านทางก่อนจึงจะสามารถต่อทะเบียนได้
“อย่างไรก็ตามทั้งหมดเป็นการวางระบบให้มีความสมบูรณ์ไว้ แต่ก็ชื่อว่าผู้ใช้ทางด่วนทุกคนที่ใช้ทางพิเศษแล้ว ส่วนใหญ่ก็พร้อมจะชำระค่าผ่านทาง ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด โดยยืนยันว่า ระบบดังกล่าวมีข้อดี เพราะจะช่วยเรื่องการตรวจสอบยานพาหนะที่เข้ามาในระบบ ว่ารถคันใดที่มีประวัติไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมายเข้ามาใช้บริการ”
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า การยกเลิกไม้กั้นทางด่วนอาจจะมีผลทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะความจำเป็นที่ต้องใช้พนักงานเก็บค่าผ่านทางจะหมดไป เรื่องนี้ให้นโยบาย ทล., กทพ. และบริษัทเอกชนที่เข้ามาสัมปทานระบบทางด่วน ให้ช่วยพิจารณาหาทางเยียวยา และไม่ต้องการให้มีการรีไทร์พนักงาน แต่ขอให้พิจารณาให้ไปทำงานในตำแหน่งอื่นแทน
ด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า การนำระบบดังกล่าวมาใช้จะทำ ให้ กทพ.ได้รับเงินจากการจัดเก็บผ่านทางเต็ม100%ตามที่มีรถผ่านทางจริง เนื่องจากในปัจจุบัน กทพ.สูญรายได้จากที่มีคนผ่านด่านโดยไม่จ่ายค่าผ่านทางกว่า 2%จากจำนวนรถที่ผ่านทางด่วนทั้งหมดกว่า 2คันต่อวันหรือสูญรายได้กว่า 400,000 บาทต่อวัน ซึ่งในส่วนของ กทพ. พร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมอย่างเต็มที่เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดหน้าด่าน

นอกจากนั้นทาง กทพ. มีแผนจะนำระบบกล้องอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติที่เชื่อมต่อข้อมูลกับ ขบ. มาใช้ร่วมกับระบบชำระเงินด้วยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ และบูรณาการทำงานในรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน (Single Platform System) ในเบื้องต้น กทพ. จะนำร่องใช้งานระบบ M-Flow ในโครงการทางพิเศษฉลองรัชและด่านฯ ที่เป็นจุดรองรับการจราจรที่ทิศทางขาเข้าเมือง ที่มีปริมาณจราจรหนาแน่น อาทิ ด่านฯ บางนา กม.6 ขาเข้า ด่านฯ ดาวคะนอง รวมถึงนำไปใช้กับทางพิเศษที่ กทพ. กำลังดำเนินการก่อสร้าง คือ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 –ดาวคะนอง–วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก และโครงการทางพิเศษฉลองรัช–นครนายก–สระบุรี อีกด้วย
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) กล่าวว่า ในส่วนของ ทล. มีความที่จะยกเลิกไม้กั้นที่ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์)หมายเลข 9 บริเวณด่านทับช้าง ก่อนภายในสิ้นปี 63 นี้ ซึ่งด่านทับช้างจะมีปริมาณรถผ่านด่านนี้ประมาณ 400,000 คันต่อวัน แต่ในภาพรวมด่านค่าผ่านทางของมอเตอร์เวย์ จะมีปริมาณรถที่ผ่านทางทั้งระบบกว่า 800,000-1ล้านคันต่อวัน และในปัจจุบันพบว่ามีผู้ใช้ทางไม่ยอมจ่ายค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ทำให้ ทล. สูญเสียรายได้ในส่วนนี้ 2%จากยอดใช้งาน ซึ่งเมื่อมีะบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ จะทำให้ ได้เงินในส่วนนี้เต็มจำนวนโดยล่าสุด ทล.ได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)เพื่อเพิ่มข้อหากรณีผู้ใช้ทางไม่ชำระค่าผ่านทางต้องมีโทษตามกฎหมาย ซึ่งจะถูกระบุใน พ.ร.บ.จราจร
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินการหาเอกชนเข้ามาดำเนินการจะเก็บค่าผ่า่นทางมอเตอร์เวย์แทน ทล. และติดตั้งระบบ พร้อมติดตามหนี้ผู้ที่ไม่จ่ายค่าผ่านทางนั้นว่า ขณะนี้ ทล.ได้เตรียมข้อมูลและเตรียมเปิดประมูลให้เอกชนมาดำเนินที่มอเตอร์เวย์ สาย 6 ด่านทับช้างก่อน คาดว่าภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้จะได้เอกชนเข้ามาติดตั้งระบบ และโครงสร้างพื้นฐานของระบบ และภายในเดือน ต.ค. เอกชนจะเข้ามาติดตั้งระบบติดตามหนี้ ระบบตรวจจับรถที่จะต้องประสานไปยัง ขนส่งทางบก และติดตั้งระบบเรียกเก็บเงิน ส่วนมอเตอร์เวย์ สาย7 จะเชดำเนินการติดตั้งระบบและยกเลิกระบบไม้กั้นทั้งหมดในปี 64