“ไบค์เกอร์” โปรดทราบ ขนส่งทางบก เผยจากนี้ออกใบอนุญาต-ต่ออายุใบขับขี่บิ๊กไบค์ ต้องผ่านการอบรม มีใบรับรองแพทย์



  • หวังสร้างความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ และประชาชนผู้ใช้ถนน
  • คาดมีผลบังคับใช้ เมื่อพ้นกำหนด 120 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา  

นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการประชุมเมื่อวันที่18 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถและการต่ออายุใบอนุญาตขับรถพ.ศ. …. ทั้งนี้ จากปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากผู้ขับรถ กรมการขนส่งทางบกได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้ยกร่างกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถและการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. …. เพื่อแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ และการต่ออายุและการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. 2548 ให้มีความเหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน 

โดยร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมีสาระสำคัญ เช่น กำหนดให้ใบรับรองแพทย์ที่จะนำมาใช้ประกอบการขอรับ หรือขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล ต้องแสดงให้เห็นว่า ผู้นั้นไม่มีโรคประจำตัว หรือสภาวะของโรคที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่า อาจเป็นอันตรายขณะขับรถ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะประสานขอความร่วมมือกับแพทยสภาในการกำหนดโรคหรือสภาวะของโรคที่ต้องห้ามในการขอรับใบอนุญาตขับรถ และจะวางแนวทางในการตรวจรับรองของแพทย์กับแพทยสภาต่อไป 

นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มเติมข้อกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะขับรถจักรยานยนต์ที่มีกำลังสูง (Big bike) ต้องผ่านการอบรมและทดสอบการขับรถตามที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม การให้อำนาจนายทะเบียนสามารถพิจารณาให้ผู้ขอรับหรือขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถต้องเข้ารับการตรวจ และนำใบรับรองแพทย์มายืนยันความเหมาะสมในการขับรถ รวมทั้งยังได้กำหนดให้ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถจะต้องใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบในการดำเนินการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถดังกล่าวด้วย โดยร่างกฎกระทรวงดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา  

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อว่า รถจักรยานยนต์ที่มีกำลังสูง (Big bike) หรือรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 400cc ขึ้นไป เป็นพาหนะที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ผู้ขับขี่ต้องมีความระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย และมีประสบการณ์การใช้งาน เพราะรถมีสมรรถนะค่อนข้างสูง กำลังแรง และน้ำหนักค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นการใช้รถต้องอาศัยทักษะความชำนาญ เพื่อการป้องกันอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์บนท้องถนน ปัจจุบันมีจำนวนรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 400cc ขึ้นไป จดทะเบียนทั้งสิ้น 216,547 คัน จากจำนวนรถจักรยานยนต์ทั้งหมด 21,284,775 คัน การที่ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวผ่านความเห็นชอบ จะส่งผลให้สามารถช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน สร้างความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และประชาชนผู้ใช้ถนน ไม่ให้เกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน และมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน