- รวมผู้ค้า 200 ราย เปิดร้านขายสินค้า
- จำหน่ายสินค้า วันที่ 17-19 ก.ค.นี้ที่ สยามพารากอน
- คาดเงินสะพัด 15 ล้านบาท
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงฯได้ร่วมมือกับ กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และ บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดตัวโครงการ ตลาดนัดดารา รวมผู้ประกอบการสร้างสรรค์ 200 กิจการ จำหน่ายสินค้า ระหว่างวันที่ 17-19 ก.ค.นี้ ที่ รอยัล พารากอน ชั้น 5 สยามพารากอน โดยสินค้าที่นำมาจำหน่ายเป็นการผลิตของศิลปินดารา และผู้ทำงานเบื้องหลังวงการบันเทิงร้านค้า อาทิ เสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ อาหารเครื่องดื่ม ที่ได้รับการพัฒนาสินค้าจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม( กสอ.)และคาดว่าจะมีเงินสะพัดในงาน 15 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ให้สามารถดำเนินกิจการได้ พร้อมส่งเสริมให้เกิดการสร้างรายได้ และการจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้น
สำหรับตลาดนัดดารา ถือได้ว่า เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของการเปิดโอกาสให้กับทุกคนได้เป็นผู้ประกอบการ และที่ผ่านมา กระทรวงฯได้ เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในกลุ่มต่าง ๆ อาทิ กลุ่มสินค้าเกษตรกรรม ได้ปรับตัวสู่ เกษตรอุตสาหกรรม เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ อีกทั้งกลุ่มคนว่างงาน ที่กสอ. ได้เข้าพัฒนาทักษะที่จำเป็น และทักษะในการประกอบธุรกิจ ทั้งในด้านบริหารจัดการ ด้านการบัญชี และปรับกระบวนการผลิต ด้านการตลาดในรูปแบบใหม่ รวมทั้งการส่งเสริมให้สามารถประกอบอาชีพตามความเชี่ยวชาญพิเศษในภูมิลำเนา
นายสุริยะ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กสอ. ได้มีการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกอย่างเข้มข้นแก่ผู้ประกอบการผ่าน ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Thai-IDC) และพบว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในยุคนี้ มี 3 ปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญอาทิ การใช้ความต้องการของตลาดเป็นตัวกำหนดการออกแบบ หรือ Design by Demand โดยการศึกษาเทรนด์ หรือ ทิศทางความต้องการของผู้บริโภค เพื่อเข้าถึงความต้องการที่แท้จริง ก่อนจะพัฒนาหรือออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีมาตรการด้านสาธาณสุขต่าง ๆ มีความจำเป็นอย่างมาก ที่ผู้ผลิตต้องวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ยังมี การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับผู้บริโภค หรือ Customer Friendly เพราะการผลิตสินค้าในยุคนี้ นอกจากการออกแบบที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ยังต้องควบคุมต้นทุนเพื่อให้ราคาอยู่ในขอบเขต ที่สามารถหาซื้อได้ง่าย แบ่งรูปแบบการจำหน่ายในขนาดที่กะทัดรัดขึ้น และไม่กระทบต่อสถานะทางการเงินของผู้บริโภคเป็นต้น
