

- เน้นดื่มนมยูเอชทีขนส่ง–เก็บรักษาง่าย
- ลดความเสี่ยงการบูดเสีย
- ขอความร่วมมือผู้ประกอบการลดราคานมยูเอชทีเท่ากับนมพาสเจอร์ไรส์
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เลขานุการคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เปิดเผยถึงผลการประชุมของคณะกรรมการดังกล่าว ซึ่งมีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการจัดส่งนมโรงเรียน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการกำหนดเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 วันที่ 1 ก.ค.นี้โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบหลักการดำเนินการการจัดส่งนมโรงเรียนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยให้นักเรียนดื่มนมยูเอชทีตลอด 1 เดือนแรก
โดยจากนั้นกำหนดชนิดนมโรงเรียนให้เหมาะสมกับวันที่นักเรียนมาโรงเรียน หากนักเรียนมาเรียนวันเว้นวัน ในวันที่นักเรียนไม่มาโรงเรียน จะให้ดื่มนมยูเอชที เนื่องจากนมยูเอชที มีอายุการบริโภคนาน การขนส่งและเก็บรักษาง่ายกว่านมพาสเจอร์ไรส์ เพราะไม่ต้องแช่เย็น แต่เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ผลิตได้เฉพาะนมพาสเจอร์ไรส์ต้องรับซื้อนมยูเอชทีจากผู้ประกอบการรายอื่นในเขตพื้นที่เดียวกันมาจัดส่งในวันที่เด็กไม่มาโรงเรียน จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการลดราคานมยูเอชทีให้เท่ากับนมพาสเจอร์ไรส์ โดยเป็นไปตามความสมัครใจ
ทั้งนี้ตามประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ปีการศึกษา 2563 เด็กนักเรียนต้องดื่มนม ครบ 260 วันต่อปีการศึกษา ส่วนราคาการจัดซื้อนมแต่ละชนิดตามราคากลางที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนด คือ นมพาสเจอร์ไรส์ ถุงขนาด 200 มิลลิลิตร ถุงละ 6.58 บาทนมยู เอช ที กล่องขนาด 200 มิลลิลิตร กล่องละ 7.82 บาท ซึ่งเป็นราคาจำหน่ายเท่ากันทุกจังหวัดทั่วประเทศ