ดัชนีดาวโจนส์พุ่งร้อนแรงเฉียด 800 จุด ยอดค้า ปลีกพ.ค.พุ่ง 17.7%



  • ชาวอเมริกาเร่งใช้จ่าย หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
  • ตลาดคาดหวังมาตรกระตุ้นเรอบใหม่ รัฐบาลสหรัฐ-เฟดช่วยเศรษฐกิจ
  • นักลงทุนจับตาแนวโน้มดอกเบี้ย จากแถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อคองเกรสของนายพาวเวล

เมื่อเวลา 21.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 26,553.72 จุด เพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงอีกครั้งกว่า 790.56 จุด หรือ +3.07% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 9,957.33 จุด เพิ่มขึ้น 231.31 จุด หรือ +2.38% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,152.48 จุด เพิ่มขึ้น 85.89 จุด หรือ +2.80%

ตลาดปรับตัวขึ้นขานรับ การใช้จ่ายของประชาชนที่เพิ่มขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 17.7% ในเดือนพ.ค. ทำสถิติทะยานขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 8.0% หลังจากดิ่งลง 14.7% ในเดือนเม.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานข่าวออกมาว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมแผนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19
โดยกระทรวงคมนาคมของสหรัฐจะมีการนำเม็ดเงินส่วนใหญ่ไปใช้ในการก่อสร้างถนนและสะพาน และโครงการ 5G และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในชนบท

ก่อนหน้านี้ เฟดประกาศซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนวงเงิน 7.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาด และจัดหาสินเชื่อให้กับบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประเด็นเหล่านี้ ทำให้นักลงทุนมีความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ว่าจะช่วยพยุงเศรษฐกิจสหรัฐจากการตกต่ำได้

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย และต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ เวลา 12.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.00 น.ตามเวลาไทย