- ยอดขายไตรมาสแรกขายได้รวมกัน 272 ล้านเครื่องลดลง 13% ผลกระทบจากไวรัสโควิด
- “ซัมซุง-หัวเว่ย” มีส่วนแบ่งอันดับหนึ่งและสองแต่ยอดขายลดลงมากที่สุด
- “เสียวหมี่” ยอดขายเติบโตโดดเด่นสวนกระแส
- ผู้ผลิตมองกันว่าไตรมาสที่สองยอดขายจะวูบหนักที่สุด
Canalys บริษัทวิเคราะห์ตลาดเทคโนโลยีชั้นนำ ได้เปิดเผยถึงการจัดเก็บตัวเลขยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกในไตรมาสแรกของปีนี้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกยอดขายลดลง 13% นับเป็นครั้งแรกที่ลดลงมากสุดตั้งแต่ปี 2013 โดย 3 เดือนแรกของปีนี้มียอดขายรวม 272 ล้านเครื่อง
ซัมซุง มียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง ยอดขายรวม 59.6 ล้านเครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 21.9% ยอดขายลดลงถึง 17% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ที่ขายได้ 71.5 ล้านเครื่อง มีส่วนแบ่งตลาด 22.8%
หัวเว่ย ตามมาเป็นอันดับสอง ขายไป 49 ล้านเครื่อง ลดลง 17% มีส่วนแบ่ง 18% จากปีก่อนขายได้ 59.1 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 18.8 ล้านเครื่อง สาเหตุมาจากเหตุผลเดิมที่โดยสหรัฐแบน ทำให้หัวเว่ยไม่มีผลิตภัณฑ์ของกูเกิล ยังผลให้ลูกค้าให้ความสนใจน้อยลง
แอปเปิล อันดับสาม ขายได้ 37.1 ล้านเครื่อง ลดลง 8% มีส่วนแบ่ง 13.6% จากปีที่แล้วขายได้ 40.2 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 12.8%
เสียวหมี่ อันดับสี่ ขายได้ 30.2 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นถึง 9% มีส่วนแบ่ง 11.1% จากปีที่แล้วขายได้ 27.8 ล้านเครื่อง
วีโว่ อันดับห้า ขายได้ 24.2 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 3% ส่วนแบ่ง 8.9%
ส่วนแบรนด์อื่นๆ ยอดขายรวม 72.4 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 26.6% ลดลงถึง 21%
ทั้งนี้ตลาดสมาร์ทโฟนเริ่มต้นปี 2563 อย่างดี แต่ย่างเข้าเดือนกุมภาพันธ์เจอวิกฤตไวรัสโควิด ขณะที่ในเดือนมีนาคมสถานการณ์พลิกกลับ ขณะนี้การผลิตสมาร์ทโฟนได้ฟื้นตัว แต่ครึ่งหนึ่งของโลกเข้าสู่การล็อคดาวน์ทำให้ยอดขายลดลง
มีผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเพียงไม่กี่รายที่สามารถทนต่อผลกระทบนี้ได้ เช่น ซัมซุงเดือนกุมภาพันธ์ยอดขายเป็นบวกเนื่องจากเน้นการผลิตในเกาหลีและเวียดนาม แต่ความได้เปรียบนี้ก็ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อไวรัสแพร่กระจายไปทั่วโลก
ยอดขายสมาร์ทโฟนแฟล็กชิปของหัวเว่ยกระทบหนัก
ขณะที่ Apple เป็นอีกหนึ่งรายที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเนื่องจากยอดขายที่แข็งแกร่งของ iPhone 11 ในช่วงแรกของไตรมาส การเปิดตัว iPhone SE ล่าสุดมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ ส่วนสมาร์ทโฟนแฟล็กชิป 5G ของหัวเว่ยที่ได้รับผลกระทบทั้งไวรัสโควิด ทำให้ยอดขายในต่างประเทศลดลง 35% อีกทั้ง รุ่น P40 ไม่มี Google Mobile Services ทำให้ได้รับความสนใจน้อยลง
ทั้งนี้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่คาดว่าในไตรมาสที่ 2 จะเป็นจุดสูงสุดของผลกระทบจากไวรัสโควิด เมื่อการปลดล็อคทั่วโลกเริ่มต้นขึ้นความเสียหายทางเศรษฐกิจทั้งหมดจะปรากฏให้เห็น ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต้องปรับกลยุทธ์เพื่อบรรเทาผลกระทบเนื่องจากในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า กระแสเงินสดจะมีความสำคัญ
แต่ถ้าพวกเขาลดการใช้จ่ายด้านผลิตภัณฑ์มากเกินไป ลดการการใช้จ่ายด้านการตลาดและความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์ใหม่ ๆ พวกเขาเสี่ยงที่จะสูญเสียความรวดเร็วและจะสูญเสียด้านพื้นที่ให้คู่แข่งเมื่อความต้องการของตลาดสมาร์ทโฟนฟื้นขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างสมดุล
ที่มา : canalys.com
