

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีจะเกิดการถดถอยติดลบถึง 3% กับภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่มีการหยุดกิจกรรมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด 19 ถึงกับเรียกว่า Great Lockdown
รายงานการคาดการณ์เศรษฐกิจโลก ได้ระบุว่า นับเป็นการตกต่ำที่สุดตั้งแต่ภาวะที่เรียกว่า Great Depression หรือภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในช่วงปี 1930 หรือ 90 ปีก่อน กิจกรรมทางธุรกิจที่ปิดตัวลงจำนวนมากได้สร้างความเจ็บปวดมากกว่าผลกระทบวิกฤตทางการเงินในปี 2000
“จิตา โกปินาธ” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IMF ระบุว่า อาการช็อคที่เกิดขี้นกระทันหันจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว ได้ทำให้การคาดการณ์เศรษฐกิจโลกของ IMF เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาว่าจะมีการเติบโตในระดับ 3.3% กลายเป็นหดตัวลงถึง 3%

วิกฤตครั้งนี้เศษฐกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มประเทศตะวันตกซึ่งล้วนแต่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เศรษฐกิจจะหดตัวลงเฉลี่ย 6.1%โดยประเทศอิตาลีและสเปนวิกฤตหนักสุด อิตาลี จะหดตัวลง 9.1% ตามด้วยสเปน หดตัวลง 8% ฝรั่งเศส 8% และอังกฤษลดลง 6.5%
สำหรับประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เช่น สหรัฐฯ คาดว่าจะหดตัวลง 5.9% ส่วนจีนคาดเติบโตในระดับ 1.2% ลดลงจากปีที่ผ่านมาเติบโต 6.1% และเติบโตพุ่งถึง 9.2% ในปีหน้า ส่วนอินเดียคาดเติบโต 1.9% ลดลงจาก 4.2%
ขณะเดียวกัน IMF ในปีนี้ยังได้ปรับตัวเลข ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อหัว ซึ่งเป็นหนึ่งมาตรฐานในการวัดมาตรฐานการครองชีพ คาดว่าจะทั่วโลกลดลง 4.2% ส่วนประเทศที่พัฒนาแล้วคาดลดลง 6.5% และลดลง 7% ในอังกฤษ
สำหรับประเทศไทย คาดเศรษฐกิจจะติดลบถึง 6.7% จากปีผ่านมามีอัตราเติบโต 2.7% และคาดการณ์ปีหน้าตัวเลขจะพุ่งไปที่ 6.1%