
- ข้อหากระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
- ไลฟ์สดใส่ร้ายเอี่ยวตุนหน้ากากอนามัยถึง5ครั้ง
- ย้ำเป็นผู้แทนหลายครั้งเป็นรัฐมนตรีหลายรัฐบาลไม่เคยทุจริต
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ส่งทีมทนายไปดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ข้อหากระทำผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ว่า ตนเป็นผู้หนึ่งที่สนับสนุนให้มีการตรวจสอบในทุกมิติ ซึ่งขณะนี้มีกระบวนการตรวจสอบในเรื่องหน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะโดยผู้ตรวจการแผ่นดิน พนักงานสอบสวน หรือตำรวจ รวมทั้งกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนให้ความร่วมมือและมั่นใจว่าทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือเช่นกัน
“เราสนับสนุนให้มีกระบวนการตรวจสอบในเรื่องนี้ เพื่อให้ข้อเท็จจริงได้ปรากฏต่อสังคมว่าเป็นอย่างไร แต่สำหรับกรณีที่ต้องส่งทีมทนายไปแจ้งความดำเนินคดีกับคุณอัจฉริยะ ก็เพราะว่า ผมและฝ่ายกฎหมายได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยลำดับ พบความจริงว่า กรณีนี้แม้เป็นการตรวจสอบในลักษณะปกติ แต่เป็นลักษณะของการใส่ความ และมีการไลฟ์สดผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผม และการปฎิบัติหน้าที่ของผม จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินคดี มีทั้งหมด 5 กรรม เพราะว่ามีการไลฟ์สด 5 ครั้ง ซึ่งรายละเอียด ขอให้เป็นหน้าที่ของทีมกฎหมาย และพนักงานสอบสวนที่จะเป็นผู้ดำเนินการต่อไป ทั้งในส่วนของการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และในส่วนของการใส่ความ ทำให้ได้รับความเสียหาย“
นายจุรินทร์ กล่าวย้ำว่า กระบวนการตรวจสอบ ถ้าเป็นกระบวนการที่สุจริต ตนไม่มีข้อขัดข้องและยินดีที่จะสนับสนุนพร้อมชี้แจงทำความเข้าใจ และพร้อมรับการตรวจสอบ เพราะเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และทำงานการเมืองมานาน เป็นผู้แทนราษฎรครั้งแรกตั้งแต่อายุ 29-30 ปี เป็นรัฐมนตรีครั้งแรกตั้งแต่อายุ 36 ปีและปฏิบัติภารกิจในฐานะรัฐมนตรีหลายกระทรวงอย่างน้อย 4 รัฐบาล ไม่เคยมีเรื่องทุจริต และพร้อมที่จะให้ตรวจสอบเสมอ แต่กรณีนี้เข้าข่ายการใส่ความชัดเจน จึงจำเป็นต้องใช้สิทธิ์เรียกหาความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมจากการใส่ความ และทำให้เกิดความเสียหายต่อเกียรติยศชื่อเสียงและการปฏิบัติภารกิจของตน










