

- พิษโควิด-19 คนตกงานระส่ำ อัตราว่างงานพุ่ง4.4%
- มอร์แกน สแตนลีย์ คาดไตรมาส2เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว38%
- ลุ้นสัปดาห์หน้า หากไม่มีปัจจัยบวกหนุน ดาวฌจนส์มีสิทธิหลุด20,000 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 3เม.ย.วันสุดท้ายของสัปดาห์ที่ 21,052.53 จุด ร่วงลง 360.91 จุด หรือ -1.69%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,488.65 จุด ลดลง 38.25 จุด หรือ -1.51% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 7,373.08 จุด ลดลง 114.23 จุด หรือ -1.53%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลง 2.7%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 2.1% และแนสแด็ก ปรับตัวลง 1.7%
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค ร่วง 3.62% ขณะที่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เพิ่มขึ้น 0.54% ผลจากบอดขายที่เพิ่มชึ้นในช่วงที่มีการกักตุนสินค้า จับตาสัปดาห์หน้า หากไม่มีปัจจัยบวกหนุน ดาวโจนส์อาจหลุด.20,000 จุด
ตลาดหุ้นร่วงลงต่อเนื่อง หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดิ่งลง 701,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2553 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจลดลงเพียง 10,000 ตำแหน่ง
อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2560
ไอเอชเอส มาร์กิต บริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 39.8 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 49.4 ในเดือนก.พ.
ดัชนี PMI ถูกกดดันจากการดิ่งลงของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่การจ้างงานหดตัวลง ส่วนความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
นักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐ จะหดตัวลง 38% ในไตรมาส 2/2563
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงกังวลกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์รายงานว่า ขณะนี้สหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลกที่ 266,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,900 ราย
หุ้นวอลท์ ดีสนีย์ ร่วงลง 3.19% หลังเปิดเผยว่าจะปลดพนักงานบางส่วนในสหรัฐในเดือนนี้ อันเนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19