

- เตรียมให้สิทธิประโยชน์บีโอไอเต็มที่
- ให้อุตสาหกรรมผลิตหน้ากากผ้าเสริมมหาดไทย
- จัดตั้งศูนย์อำนวยการโควิด-19 นั่งคุมเอง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 ในส่วนของหน้ากากอนามัย ว่า รัฐบาลได้ให้นโยบายไปคือจัดตั้งโรงงานทำหน้ากากอนามัยแบบครบวงจรซึ่งมีบริษัทใหญ่ๆ เสนอเข้ามาแล้ว ซึ่งต้องไปหามาตรการสร้างแรงจูงใจในการตั้งโรงงาน ซึ่งไม่ได้มีเจ้านี้เจ้าเดียว ให้ดูเจ้าอื่นด้วย เดี๋ยวจะหาว่าเอื้อประโยชน์กันอีก ถือเป็นสิทธิในการเสนอขอรับมาตรการต่างๆ ของ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน( บีโอไอ)ถ้าจะทำหน้ากากให้ครบวงจร ทั้งนี้ ทราบว่า 5 สัปดาห์ก็ตั้งได้แล้ว ขณะเดียวกันได้จัดสรรหน้ากากอนามัยที่ผลิตได้วันละ 1.2 ล้านชิ้นใหม่ ให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นลำดับแรกจากนี้ไปจะได้รับวันละ 700,000 ชิ้นที่เหลืออีก 500,000 ชิ้นแบ่งมาให้ประชาชนทั่วไป
นอกจากนี้ ทางกระทรวงมหาดไทยให้ท้องถิ่นผลิตหน้ากากผ้า 50 ล้านชิ้นนั้น จะส่งถึงมือประชาชนอย่างแน่นอน อย่างน้อยได้คนละ 1 ชิ้นนอกจากนี้ยังให้กระทรวงอุตสาหกรรมผลิตหน้ากากฯ ผ้าเพิ่มอีกด้วย จำนวน 20 ล้านชิ้น โดยหน้ากากฯผ้า กระทรวงสาธารณสุขยืนยันแล้วว่าป้องกันได้ อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปที่อยู่บ้านก็ไม่จำเป็นต้องใช้หน้ากากฯหากไม่ติดเชื้อ ถ้าอยู่ในบ้านบางทีไม่ต้องใช้ เพราะจะเปลืองไป ใช้เมื่อออกจากบ้านหรืออยู่ในที่ชุมชน จะลดการใช้ไปได้เยอะ
“รัฐบาลมีความตั้งใจมุ่งมั่นในการแก้ปัญหานี้ให้ได้ ถ้าจะบอกว่ารัฐบาลทำไม่สำเร็จ ทำมาไม่ดีสักอย่าง เจ้าหน้าที่ก็หมดกำลังใจ ผมไม่ห่วงตนเอง เพราะยังไงก็ไม่หมด การดำเนินการเป็นไปตามลำดับสถานการณ์ หากเปรียบเทียบกับหลายประเทศ ตอนแรกๆ บางประเทศไม่พบติดเชื้อเลย แต่วันนี้วันเดียวพบ 200-700 คน ประเทศเราไม่ขึ้นมาก ยังไม่มีตายมาก ต้องชื่นชมการทำงานของบุคลากรทุกส่วน
นอกจากนั้น ได้ ให้มีการจัดการจัดตั้งศูนย์อำนวยการเพื่อบริหารโรคติดเชื้อโควิด-19 ขึ้น โดยตนเอง เป็นประธานในการบูรณาการทำงานของทุกส่วน และศูนย์แถลงข่าวโควิด-19 ก็อยู่ภายใต้ศูนย์อำนวยการนี้ รวมทั้งยังมี ศูนย์ของกระทรวงสาธารณสุขอยู่เหมือนเดิ
“วันนี้เราทำงานภายใต้กฎหมาย 3 ตัว ประกอบด้วย พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ร.บ.บรรเทาสาธารณภัย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการเชิงนโยบาย ดังนั้น ศูนย์บริหารสถานการณ์ที่ตนบัญชาการจะทำหน้าที่กรั่นกรองมาตรการต่างๆ ที่ฝ่ายแพทย์เสนอขึ้นมา โดยจะไม่ซ้ำซ้อน แต่จะนำทุกศูนย์มารวมกันไม่ได้ เพราะเป็นคนละระดับกัน”