ธุรกิจท่องเที่ยวบ่นตายจนจะเผาแล้ว แต่รัฐบาลไม่เหลียวแลเตรียมก่อม็อบร้องเรียน



  • ไวรัส โควิด -19 ซัดนักท่องเที่ยวลดตลอดทั้งปีนี้
  • กระทรวงท่องเที่ยวฯเตรียมชง 5 มาตรการเข้าครม 3 มี.ค.
  • ททท.เผยปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือแค่ 33 ล้านคน

นายธนพล ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งนี้ถือว่าหนักมากที่สุดกระทบไปทั้งโลก เพราะไม่รู้จะจบเมื่อใด เชื่อว่าจะกระทบไปตลอดปีนี้ทั้งปีเป็นอย่างต่ำ ทุกองคาพยพในธุรกิจท่องเที่ยวตายหมดจะเผาแล้ว ทั้งธุรกิจที่นำคนต่างชาติมาเที่ยวไทย(อินบาวด์) และธุรกิจนำคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ(เอาท์บาว์) ตลอดจนโรงแรม รถรับจ้าง ร้านอาหาร ย่ำแย่กันหมด แต่รัฐบาลกลับไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม เหมือนไม่เห็นธุรกิจนี้ในสายตา วงเงินสินเชื่อ 123,000 ล้านบาทที่เข้าคณะรัฐมนตรี( ครม.)ก็ไม่กู้จริงไม่ได้ เพราะเมื่อไปคุยกับบรรษัทอุตสาหกรรมขนาดย่อมหรือธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ก็บอกแต่ว่ายังไม่มีคำสั่งจากผู้ใหญ่มา ดังนั้น หากสัปดาห์หน้าไม่มาตรการอะไรออกมาช่วยเหลือ คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคงต้องรวมตัวเป็นม็อบไปร้องเรียนกับรัฐบาล

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ขยายวงกว้างไปยังเกือบทุกภูมิภาคของโลก หากทุกอย่างคลี่คลาย จะมีนักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวไทยกลุ่มแรกๆประมาณเดือนก.ค.ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไปตลอดปี 2563 ประมาณ 6 ล้านคนเป็นอย่างน้อย จากปี 2562 ที่มีจำนวน 39.8 ล้านคน หรือ มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้าไทยมากที่สุดได้ประมาณเพียง 33 ล้านคน ใกล้เคียงปี 2559 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยประมาณ 32.5 ล้านคน

“ขณะนี้ยอดจองห้องพักในเดือนก.พ.ติดลบ 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีการจองแล้วยกเลิกอีก 41% ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่ลดลง ทุกประเทศยังเฝ้าระวัง นักท่องเที่ยวมีความกังวล ไม่กล้านั่งเครื่องบิน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 3 มี.ค.นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงได้จัดทำข้อเสนอมาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวม 5 มาตรการ”

ประกอบด้วย 1. มาตรการเสริมสภาพคล่องสำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ได้แก่ ผ่อนปรนการชาระหนี้เงินต้นชั่วคราวและลดอัตราดอกเบี้ยลงจากสัญญาเดิม พร้อมให้รัฐหาสินเชื่อวงเงินใหม่เสริมสภาพคล่องในอัตราดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟโลน์) เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เช่น เงินเดือนพนักงาน และการบริหารจัดการอื่น ๆ ของธุรกิจ โดยอาศัยแหล่งเงินทุนจากกระทรวงการคลัง พร้อมขอให้พิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสินเชื่อ เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวก และรวดเร็วขึ้น

2.มาตรการช่วยเหลือลูกจ้างและพนักงานของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ผ่อนปรนชาระหนี้เงินต้นชั่วคราวสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เป็นระยะเวลา 1 ปี และผ่อนปรนการชำระหนี้เงินต้นชั่วคราวสำหรับสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเป็น ระยะเวลา 1 ปี และลดดอกเบี้ย หรือ แปลงหนี้เดิมทั้งหมดเป็นสินเชื่อใหม่ ระยะเวลาผ่อน ชำระ 5-8 ปี โดยผ่อนปรนการชาระหนี้เงินต้นในปีแรก พร้อมกับปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 60% สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เป็นระยะเวลา สูงสุด 1 ปี ตลอดจนให้จัดหาสินเชื่อบุคคลใหม่ 200,000 บาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย14% ต่อปี สำหรับมัคคุเทศก์ คนขับรถรับจ้าง พร้อมให้พิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์ใน การพิจารณาสินเชื่อ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น

  1. มาตรการภาษีเพื่อพยุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้แก่ ขยายระยะเวลาชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลออกไปอีกระยะหนึ่ง และให้ผ่อนชำระภาษีได้เป็น ระยะเวลา 6 เดือน พิจารณาลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา โดยสามารถนาค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในประเทศ ได้แก่ แพคเกจทัวร์ในประเทศ ค่าโรงแรมที่พัก ค่าเดินทาง และค่าบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น ร้านขาย ของที่ระลึก สปา ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ในวงเงินและตามระยะเวลาที่กระทรวงการคลังกาหนด และให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ามันเชื้อเพลิง สาหรับผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประเภทรถและเรือโดยสารสาธารณะ

4.มาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายเพื่อจูงใจให้ธุรกิจรักษาการจ้างงาน ได้แก่ ยืดการจ่ายค่าเช่าที่ดินของรัฐ ลดหรือยืดหรือผ่อนชาระค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ค่าไฟฟ้า ยืดการจ่ายค่าต่อทะเบียนยานพาหนะที่ใช้ในธุรกิจท่องเที่ยว เช่น รถทัวร์โดยสารสาธารณะลดเงินประกันสังคมจาก 5% เป็น 3% หรือเลื่อนชำระเงินประกันสังคม 3 เดือน
ลดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายให้กับสถาบันการเงิน และบรรษัทประกัน สินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และให้รัฐสนับสนุนทางการเงินให้แพลตฟอร์มออนไลน์ (OTAs) 5. โครงการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวท ด้วยการอบรมเพิ่มพูนทักษะพร้อมเสริมรายได้ ให้กับมัคคุเทศก์ พนักงานโรงแรม 100,000 ประมาณ 7-10 วัน โดยมีค่าเดินทางเหมาจ่ายคนละ 300 บาทต่อวัน