- เหตุผู้บริโภคที่ไม่ได้พกถุงผ้าลดจำนวนการซื้อ
- ดิ้นหามาตรการกระตุ้นยอดขายจูงใจคนซื้อเพิ่ม
- ส่วนดัชนีค้าปลีกไตรมาส4/62พุ่งรับชิมช้อปใช้
นายสุรงค์ บูลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้หอการค้าไทย และผู้ประกอบการห้างค้าปลีกอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบและการออกมาตรการเสริมเพื่อช่วยขับเคลื่อนการใช้จ่ายหลังจากที่ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการรณรงค์เลิกใช้ถุงพลาสติกจนทำให้ยอดขายลดลง เพราะผู้บริโภคลดการซื้อสินค้าให้น้อยชิ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ได้นำถุงผ้าติดตัวมาด้วย เบื้องต้นจะส่งเสริมให้ใช้ถุงกระดาษ, ถุงพลาสติกบางที่สามารถย่อยสลายได้ รวมถึงแจกถุงขยะแทนการแจกถุงพลาสติกทั่วไป เพื่อให้ผู้บริโภคนำถุงไปใส่ขยะก่อนที่จะนำขยะไปทิ้ง เป็นต้น
“ผู้บริโภคจำนวนมากไม่ได้วางแผนว่าจะซื้ออะไร เดิมเมื่อเข้าร้านค้าหรือห้าง หากเห็นอะไรที่ชอบก็จะซื้อตอนนั้นเลย แต่หลังจากรณรงค์อย่างเข้มข้นให้เลิกแจกถุงพลาสติก ทำให้ลูกค้าลดจำนวนการซื้อ ดังนั้นภาคเอกชนคงต้องร่วมกันหามาตรการจูงใจผู้บริโภคซื้อสินค้ากันต่อไป ซึ่งตอนนี้มีหลายแนวทาง อย่างการแจกถุงขยะขนาดเล็ก หากมีการซื้อสินค้ามูลค่าตามที่กำหนดก็จะมีการแจก เพราะผู้บริโภคสามารถนำถุงดังกล่าวไปใส่ขยะได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์หลายๆ ด้าน อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่น้อยลง คงไม่ใช่ประเด็นการรณรงค์เลิกใช้ถุงพลาสติกอย่างเดียว แต่จะมีเรื่องของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว, ฝุ่นพีเอ็ม2.5 และไวรัสโคโรนา”
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรดไตรมาส 4 ปี 62 พบว่า ดัชนีปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 51.1 จากไตรมาส 3 ที่อยู่ระดับ 51.0 เพราะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 316,000 ล้านบาท มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และมาตรการลดค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวชิมช้อปใช้ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจครั้งนี้ยังไม่รวม 2 ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ งบประมาณรายจ่ายประจําปี 63 ที่ล่าช้า และผลกระทบของไวรัสโคโรนา
