

- ลูกค้าใช้บริการ 20.6 ล้านรายลดลง560,000 ราย
- ยันผลประกอบการทำดีแทคเติบโตอย่างยั่งยืน
- ย้ำปี2563 ไม่หยุดพัฒนาเพื่อประโยชน์ลูกค้า
นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า สิ้นปี 2562 ดีแทคมีฐานลูกค้าจำนวนทั้งสิ้น 20.6 ล้านราย ลดลง 560,000 ราย มีรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่าไอซี) ในไตรมาส 4/62 เพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้จากค่าบริการหลักในปี 2562 เติบโต 0.1 %เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นผลมาจากพัฒนาการจำนวนลูกค้าที่ดีขึ้นในระบบเติมเงิน โดยมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/62 ขณะที่จำนวนลูกค้าในระบบรายเดือนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กำไรสุทธิสำหรับปี 2562 มีมูลค่าทั้งสิ้น 5,900 ล้านบาท เติบโต 69.4 %เมื่อเทียบกับปีก่อนซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของต้นทุนค่าธรรมเนียมและค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ภายใต้สัมปทานที่สิ้นสุดลงแล้ว
“จากผลการดำเนินงานในปี 2562 ที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นว่าดีแทคได้กลับเข้าสู่สภาวะการเติบโตอย่างยั่งยืนประสบการณ์ลูกค้ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพทางด้านโครงข่าย โดยยึดปัญหาของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้ ลูกค้าทั้งในระบบเติมเงินและระบบรายเดือนยังให้การตอบรับที่ดีต่อการพัฒนาทางด้านโครงข่าย การพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย และประสบการณ์ลูกค้า ด้วยการมุ่งเน้นที่คุณภาพการให้บริการและข้อเสนอที่ตรงใจลูกค้ามากขึ้น ทั้งนี้ กลยุทธ์การดำเนินในปี 2563 นี้ คือการไม่หยุดพัฒนาประสบการณ์ใช้งานของลูกค้า การขยายโครงข่ายให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนาองค์กรให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต”
ทั้งนี้ในปี 2562 ที่ผ่านมา ดีแทคเดินหน้าพัฒนาคุณภาพสัญญาณและขยายโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถขยายสถานีฐานสำหรับรองรับคลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ของทีโอที ได้ถึง 4,700 สถานี ทำให้ปัจจุบันสถานีฐานสำหรับรองรับคลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ มีจำนวนถึง 17,400 สถานีทั่วประเทศ
นายดิลิป ปาล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน กล่าวว่า ดีแทคมีผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่งโดยมีรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าไอซีในไตรมาส 4/62 ที่โตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนตลอดจนการเติบโตของรายได้จากการให้บริการหลัก (รายได้จากการให้บริการเสียงและข้อมูล) ในปี 2562 และด้วยต้นทุนค่าธรรมเนียมที่ลดลง ค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ภายใต้สัมปทานที่สิ้นสุดลงแล้ว พร้อมทั้งการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้องกับการขายและการบริหาร (SG&A) และการบริการ ทำให้ดีแทคมีกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อน