

- ที่ปรึกษา 3 ราย “ทีอีอาร์ไอ-มช.-จุฬาลงกรณ์“เสนอตัวเลขไม่ตรงกัน
- สั่งให้ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม เสนอให้พิจารณาอีกครั้ง 12 ก.พ.นี้
- ไม่กระทบแผนการประมูล 5 จี 16 ก.พ.นี้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดกสทช. ยังไม่เห็นชอบรายงานผลการพิจารณาและเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการกำหนดวิธีการและเงื่อนไขเพื่อทดแทน ชดใช้และจ่ายค่าตอบแทนสำหรับผู้ที่ถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2500-2690 เมกะเฮิรตซ์ ของคณะอนุกรรมการพิจารณาการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนในการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่านดังกล่าว โดยมีมติให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไปศึกษาเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับเรื่องค่าเสียโอกาสของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และให้นำผลการศึกษามาเสนอต่อที่ประชุม กสทช. ในวันที่ 12 ก.พ. 2563
“ผลการศึกษาของที่ปรึกษา 3 แห่งคือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาชัยเชียงใหม่ และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ไม่ตรงกันในรายละเอียด จึงต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะกสทช.ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ กรณีการย้ายชดเชยเยียวยาการเรียกคืนคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์ อย่างไรก็ตามแม้กสทช.จะยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องการจ่ายชดเชยคลื่น 2600 แต่ก็จะเร่งดำเนินการ และเมื่อเปิดประมูล5 จีในวันที่ 16 ก.พ.นี้ ผู้ชนประมูล ก็สามารถใช้คลื่นได้”
ทั้งนี้จากเดิม อสมท.ได้เสนอวงเงินขดเชยมายังกสทช.ราว 40,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งอสมท.ครอบครองคลื่น2600 เมกะเฮิตรซ์ จำนวน 146 เมกะเฮิรตซ์ โดยกสทช.ต้องนำเรื่องไปศึกษารายละเอียด และเคยมีการเสนอมูลค่าการชดเชยอยู่ที่ 3,000 -12,000 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุป เพราะฉะนั้นจึงต้องรอผลการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์อีกครั้ง เชื่อว่าในวันที่ 12 ก.พ.นี้ จะมีความชัดเจน และนำเสนอบอร์ดกสทช.พิจารณาได้ในวันที่ 14 ก.พ.นี้
นายฐากร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุม กสทช. ยังได้มีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) ประกาศ กสทช. ที่เกี่ยวข้องกับกิจการดาวเทียม จำนวน 3 ฉบับ พร้อมทั้งเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศดังกล่าวที่ได้ปรับปรุงภายหลังจากการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ และข้อสังเกตของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงานของ กสทช. ด้านกิจการโทรคมนาคมแล้ว ดังนี้ 1.(ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง แผนการบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม 2.(ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม 3.(ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติในการให้บริการในประเทศ และให้นำ (ร่าง) ประกาศทั้ง 3 ฉบับ ไปประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป และเมื่อร่างประกาศทั้ง 3 ฉบับมีผลบังคับใช้ ก็จะมีผลต่อการดำเนินธุรกิจดาวเทียมของประเทศ ก็จะมีความชัดเจนมากย่ิงขึ้นด้วยเช่นกัน