- ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำหนุนคนไทยมีบ้าน
- ช่วยลูกหนี้ข้าราชการ ผ่อนเงินงวดแค่ 50% ถึง 6 เดือน
- ชี้หลังแบงก์ชาติปรับเกณฑ์ LTV ปล่อยกู้ได้ถึง 900 ลบ.
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการธนาคาร(บอร์ด)ธนาคาร ในวันที่ 28 ม.ค.นี้ ธอส.เตรียมเสนอมาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัย วงเงินรวมประมาณ 100,000 ล้านบาท ตามนโยบายของนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสให้ประชาชนทุกระดับรายได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ทั้งหมด 4 โครงการ ดังนี้
1.โครงการบ้านธอส.เพื่อสานรัก ปี 2563 กรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 3.25% ต่อปี ปีที่ 2 ดอกเบี้ย 4 % ต่อปี ปีที่ 3 ดอกเบี้ย 5 % ต่อปี ส่วนเดือนที่ 37-42 ดอกเบี้ย 0% ต่อปี โดยจะให้กู้สูงสุดรายละไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหลักประกัน และผู้กู้ต้องมีรายได้รวมไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน โดยสามารถยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ถึงวันที่ 30 ธ.ค. 2563 2.โครงการสินเชื่อบ้าน Dream Homes by GHB กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 เท่ากับ 3.25% ต่อปี ปีที่ 4-5 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี( MRR)-2% ต่อปี ส่วนเดือนที่ 61-66 อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี โดยสามารถยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ถึงวันที่ 30 ธ.ค.2563
3.ออกสลากออมทรัพย์ ธอส. รุ่นที่ 3 ชุดพิมานมาศ กรอบวงเงิน 50,000 ล้านบาท หน่วยละ 50,000 บาท จำนวนสลากรวมทั้งโครงการรวม 1 ล้านหน่วย โดยจะออกรางวัลทุกเดือน เดือนละ 100 รางวัล รางวัลละ 50,000 บาท และมีรางวัลพิเศษทุกไตรมาส มูลค่ารวมไตรมาสละ 10 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มเปิดจำหน่ายในเดือนก.พ.นี้ และธอส.จะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากออมทรัพย์นี้ไปออกสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 50,000 ล้านบาท สำหรับปล่อยกู้ให้แก่ประชาชนทุกระดับ
และ4.มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นข้าราชการและบุคลากรภาครัฐที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 10,000 ราย ยอดเงินต้นคงเหลือ 8,300 ล้านบาท โดยธอส.จะให้ข้าราชการผ่อนในอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปีและผ่อนชำระเงินงวดเพียง 50% ของเงินงวดตามสัญญา ระหว่างการประนอมหนี้หรือปรับโครงสร้างหนี้ในระยะเวลา 6 เดือน ก่อนพิจารณาจัดชั้นหนี้เป็นปกติ โดยเงินงวดที่ชำระตามมาตรการนี้จะนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด
ทั้งนี้หลังธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ผ่อนเกณฑ์มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 ม.ค.63 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ผู้กู้สินเชื่อได้ถึง 110% จากเดิมกำหนดเพดานไว้ 100% นั้น ธอส.ได้ปรับหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อรองรับมาตรการนี้ โดยจากวันที่ 21-23 ม.ค.63 มีการอนุมัติสินเชื่อแล้ว 900 ล้านบาท จำนวน 450 ราย และประชาชนจะได้รับการกู้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 5-10%
ส่วนมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านมา เช่น โครงการบ้านล้านหลัง ที่เริ่มโครงการตั้งแต่ม.ค.2562 –30ธ.ค.2564 มีผู้ยื่นกู้แล้วจำนวน 22,442 บัญชี วงเงินขอกู้ 16,506 ล้านบาท โดยมีการอนุมัติแล้ว 21,227 บัญชี วงเงินอนุมัติ 15,086 ล้านบาท ส่วนมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยธอส. วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ปีที่ 1 -3 คงที่ 2.50% ต่อปี ให้กู้สูงสุดรายละไม่เกิน 3 ล้านบาท มีผู้ยื่นกู้แล้ว 11,425 บัญชี วงเงินขอกู้ 21,947 ล้านบาท และอนุมัติแล้ว 9,460 บัญชี วงเงินอนุมัติ 17,605 ล้านบาท
และโครงการบ้านดีมีดาวน์ ที่รัฐสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ จำนวน 50,000 บาทต่อราย แก่ประชาชน 100,000 รายแรก มีจำนวนผู้ลงทะเบียน 90,507 ราย โดยเป็นผู้ที่ผ่านคุณสมบัติตามเกณฑ์การลงทะเบียน 50,506 ราย และมีการอนุมัติสินเชื่อและโอนเงินจำนวน 50,000 บาทไปแล้วทั้งหมด 5,659 ราย
