“พุทธิพงษ์”ตอกย้ำ “ทีโอที-แคท”ต้องร่วมประมูล5จี เพื่อบริการสังคม



  • เป็นกลไกในการแข่งขันทางธุรกิจ
  • สร้างสมดุลไม่ให้มีราคาแพงเกินไป
  • มุ่งเน้นเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอีเอส มีนโยบายที่มุ่งเน้นให้สองหน่วยงานภายใต้สังกัด คือ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) ต้องเข้าร่วมประมูลโครงข่าย 5 จี ที่สำนักงานคณะกรรมกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) จะนำออกประมูล ส่งเสริมการใช้ประโยชน์คลื่นความถี่อันเป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประโยชน์สาธารณะ สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐที่มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ก่อให้เกิดผลดีต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของประเทศให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับวิวัฒนาการของโลก โดยรัฐวิสาหกิจเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีบทบาทในการสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ

“เจตนารมณ์ในการที่จะให้ทั้ง ทีโอที และ กสท โทรคมนาคม เข้าร่วมประมูล 5 จี ด้วยนั้น เพราะการสื่อสารผ่านโครงข่ายดิจิทัล ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับประชาชนในทุกวันนี้ จึงต้องมีกลไกในการแข่งขันทางธุรกิจ สร้างสมดุลไม่ให้มีราคาแพงเกินไป โดยต้องเป็นการมุ่งเน้นเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก”

ทั้งนี้การประมูลโครงข่ายเทคโนโลยี 5 จี คือประตูสู่การมีเทคโนโลยี 5 จี ของประเทศไทย ยิ่งประมูลได้เร็ว ก็เท่ากับว่าสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ และเพิ่มการจ้างงาน ให้ทันกับผลจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งจะทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ 190 บริษัทย้ายฐานออกจากประเทศจีนไปยังประเทศใหม่ ประเทศไทยจึงต้องพร้อมมีโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีอย่าง 5G รองรับการลงทุนนี้ ไม่ให้ฐานการลงทุนย้ายไปเป็นประเทศอื่น