อนาคตใหม่จัดหนักจ่อซักฟอกรัฐบาลแบบจัดเต็ม



นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคอนาคตใหม่ ในการอภิปรายร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า ตอนนี้ความคืบหน้า หรือประเด็นที่ท้วงติงร่างกฎหมายฉบับนี้ ก็คงจะเหมือนกับในวาระที่ 1 เช่น เรื่องงบกลาง การจัดซื้อเรือดำน้ำ การจัดซื้อรถถังยานเกราะสไตรเกอร์ หรือการจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็ว ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นต้น เท่าที่หารือกับพรรค เราจะพยายามไม่พุ่งว่าจะเน้นหนักไปที่ประเด็นไหน

เมื่อถามว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายวิโรจน์ เปิดเผยว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้อภิปรายครั้งนี้ ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ให้ฝ่ายค้านอภิปรายย้อนเรื่องรัฐบาลที่แล้วนั้น เราต้องกลับมาดูว่า 1.รัฐบาลที่แล้วและรัฐบาลนี้เป็นรัฐมนตรีคนเดิม และ 2.นโยบายของรัฐบาลนี้เป็นนโยบายสืบเนื่องมาจากรัฐบาลที่แล้ว และการออกมาดักคอฝ่ายค้านเช่นนี้ คาดว่าคงมีการวางตัว ส.ส.ให้มาประท้วงการอภิปรายด้วย

สำหรับเรื่องที่จะเป็นการเปิดแผลและสั่นคลอนรัฐบาลมากที่สุด นายวิโรจน์ แสดงความเห็นว่า ส่วนนี้คาดว่าจะเป็น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในประเด็นเรื่องการนำเข้าขยะจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ทั้งที่กรมควบคุมมลพิษ และกรมการกงสุล ออกมาบอกว่าจะยุติการนำเข้าขยะแล้ว และมีผู้ประกอบการเพียง 2 ราย ซึ่งเป็นนักลงทุนจีน ที่ได้รับอนุญาตในการนำเข้าขยะ ตนต้องตั้งคำถามว่า หากการนำเข้าขยะมีกฎหมายห้าม แต่ทำไมจึงยังสามารถนำเข้า และเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น หมายความว่าต้องมีไอ้โม่ง หรือขาใหญ่ที่เปิดทางไว้ให้ โดยในช่วงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ใช้มาตรา 44 ที่อนุญาตให้เปิดโรงงานโดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงแผนที่ผังเมือง จากนั้นจึงมีการเปิดขออนุญาตเต็มไปหมด จนเกิดธุรกิจการขายใบอนุญาตขึ้น ต่อมาก็มีการนำเข้าขยะเพื่อนำไปผลิตพลังงาน “RDF” (อาร์ดีเอฟ) หรือ “เชื้อเพลิงขยะ” ซึ่งตนก็ค่อนข้างเห็นด้วย แต่หากเกิดการจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ ก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และไม่เกิดพลังงานอย่างเพียงพอ ซึ่งในประเด็นเรื่องขยะจะเป็น ส.ส.อีกคนที่จะอภิปราย