นายกฯ แพทองธาร ประกาศปี 68 “ปีแห่งโอกาสของคนไทย” รัฐบาลเดินหน้า 5 นโยบายหลัก “ล้างหนี้ประชาชน-บ้านเพื่อคนไทย-ทุนการศึกษา-รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ดิจิทัลวอลเล็ต”

นายกฯ แพทองธาร
ล้างหนี้ประชาชน-บ้านเพื่อคนไทย-ทุนการศึกษา-รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ดิจิทัลวอลเล็ต"


นายกฯ แพทองธาร ย้ำเคมเปญ “โอกาสไทย ทำได้จริง” หลังทำงานครบ 90 วัน ประกาศปี 68 รัฐบาลเดินหน้า 5 นโยบายหลัก“ ล้างหนี้ประชาชน-บ้านเพื่อคนไทย-ทุนการศึกษา-รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย-ดิจิทัลวอลเล็ต” ขอทุกภาคส่วนร่วมทีมทำงาน เพื่อโอกาสประเทศไทย

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลงานครบรอบ90 วันที่รัฐบาลได้ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมมอบนโยบายแก่ข้าราชการระดับสูง ได้แก่ หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง กรม และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ภายใต้แคมเปญ “2568 โอกาสไทยทำได้จริง : 2025 Empowering Thais: A Real Possibility ” พร้อมมอบนโยบายให้แก่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ผู้รับผิดชอบในแต่ละนโยบายด้วย

นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายรวมทั้งสิ้น 11 นโยบาย แบ่งเป็นนโยบายระยะยาว ที่ต้องทำในเชิงโครงสร้าง 6 นโยบาย คือ การจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้ง การแก้ปัญหาหมอกควัน PM 2.5 ปัญหายาเสพติด การทลายการผูกขาด การแก้ปัญหาธุรกิจนอกระบบ และนโยบายการลงทุนครั้งใหญ่ในอนาคต และเป็นนโยบายที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า จำนวน 5 นโยบาย คือ โครงการ SML หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน ดิจิทัลวอลเล็ต การแก้หนี้ครัวเรือน และบ้านเพื่อคนไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวเริ่มต้นงานว่า ผลงานของรัฐบาลแพทองธารเป็นผลงานที่ต่อเนื่องมาจากการบริหารงานของอดีตนายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา วันนี้รัฐบาลแพทองธารได้ทำงานผ่านความร่วมมือของคณะรัฐมนตรีและพี่น้องข้าราชการ เพื่อพี่น้องประชาชนมาแล้ว90 วันเต็ม ทำให้วันนี้ “ทุกคนคือทีมเดียวกัน” และจะร่วมกันเดินไปข้างหน้าอย่างเต็มที่ วางรากฐานของประเทศไทยในทศวรรษหน้าให้คนไทยมีกิน-มีใช้-มีเกียรติ-มีศักดิ์ศรี

นายกฯ แพทองธาร
ปีแห่งโอกาสของคนไทย
นายกฯ แพทองธาร
นายกฯ แพทองธาร ประกาศปี 68 “ปีแห่งโอกาสของคนไทย”
นายกฯ แพทองธาร ประกาศปี 68 “ปีแห่งโอกาสของคนไทย”
ดิจิทัล วอลเล็ต

ประเทศไทยในปี 2568 จะเป็นปีแห่งโอกาส

ประเทศไทยในปี 2568 จะเป็นปีแห่ง “โอกาส” รัฐบาลจะสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม เพื่อสร้างอนาคตที่เป็นจริง นโยบายแรก คือการแก้ไขปัญหา “น้ำท่วม-น้ำแล้ง” น้ำต้องเพียงพอสำหรับการอุปโภค บริโภค เกษตร และอุตสาหกรรม ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการทั้งระยะสั้น-กลาง-ระยะยาว รวมทั้งการศึกษาแนวทางที่จะอนุญาตให้ประชาชนขุดลอกคูคลองแล้วนำดินไปใช้หรือขายได้และให้มีการศึกษาโครงการ Floodway และโครงสร้างขนาดใหญ่ที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้อย่างยั่งยืนด้วย

นโยบายต่อมาคือเรื่องปัญหา “หมอกควัน” นายกรัฐมนตรีประกาศ KPI ว่า PM 2.5 จะต้องลดน้อยลง ทั้งในแง่ปริมาณฝุ่นและตัวเลขประชาชนที่ป่วยจากฝุ่น ต้องลดลงทุกปี โดยปัจจุบันรัฐบาลควบคุมการเผาในประเทศ การเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านให้ลดการเผา และการออกกฎหมาย พ.ร.บ. อากาศสะอาด เช่นเดียวกับเรื่องยาเสพติด ที่จะต้องมีมาตรการที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “การผูกขาดทุกชนิด เป็นการเพิ่มต้นทุนให้ประชาชน และทำให้พี่น้องประชาชนยากจนลง” รัฐบาลจะเร่งดำเนินการปลดล็อกการผูกขาด โดยเฉพาะ เรื่องข้าว ที่ตั้งเป้าให้เกษตรกรทุกคนสามารถส่งออกข้าวไปทั่วโลกได้เอง หรือการปลดล็อกการผูกขาดราคาพลังงานด้วยเงื่อนไขทางกฎหมายเพื่อปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า ค่าพลังงานให้ถูกลงให้ได้

รัฐบาลจะนำธุรกิจใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดินและกำกับให้ถูกกฎหมาย

ประเด็นต่อมา รัฐบาลจะนำธุรกิจใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดินและกำกับให้ถูกกฎหมาย คาดว่าธุรกิจใต้ดินมีมูลค่ากว่า 49% ของ GDP ไทย การแก้ปัญหานี้จะทำให้รัฐบาลปกป้องประชาชนได้และยังเป็นรายได้ของรัฐบาลด้วย ในเรื่องเทคโนโลยี และ AI รัฐบาลไทยตั้งเป้าจะเป็น AI Hub ของภูมิภาค เนื่องจากในปัจจุบัน มีบริษัทใหญ่มาลงทุนทำศูนย์ข้อมูล (Data center) เป็นเงินลงทุนมากกว่าล้านล้านบาทแล้ว

นโยบายใหม่ปี 2568 ‘หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน

ในส่วนของนโยบายใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการนำนโยบาย ‘หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน’ หรือ ODOS กลับมาอีกครั้ง โดยใช้งบประมาณจากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลรวมทั้งมีโครงการที่เปิดโอกาสให้เด็กไทยได้ไปฝึกภาษาที่ต่างประเทศเป็นเวลาสั้นๆ ในโครงการ ‘1 อำเภอ 1 ซัมเมอร์แคมป์’และโครงการอัพเกรดโรงเรียนประจำอำเภอ ทำให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ เติมครู เติมเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา และAI ให้เด็กๆ ในทุกอำเภอ

รัฐบาลจะให้โอกาสคนทุกตำบลหมู่บ้านในการคิดและลงมือแก้ไขปัญหาในพื้นที่ผ่านโครงการ SML ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่จะกระจายโอกาสและเงินลงไปในทุกหมู่บ้าน พร้อมกับกองทุนเพื่อฟื้นฟู SME ซึ่งเป็นฐานรากของเศรษฐกิจไทยอีกกว่า5,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมี โครงการ ‘บ้านเพื่อคนไทย’ (Public Housing) คอนโดคุณภาพดีพร้อมเฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่ เริ่มต้นประมาณ 30 ตารางเมตร ผ่อนเดือนละประมาณ 4,000 บาท เป็นเวลาประมาณ30 ปี และให้สิทธิอยู่อาศัย 99 ปี ที่จะเป็นความหวังของคนไทยที่อยากมีบ้าน ขณะเดียวกัน

จะดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตระยะที่ 3 สำหรับบุคคลทั่วไป

นายกรัฐมนตรีประกาศว่า จะดำเนินโครงการเงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 โดยเงินสดจะถึงมือผู้สูงอายุประมาณ 4 ล้านราย ไม่เกินตรุษจีน นี้ หลังจากนั้น จะดำเนินการระยะที่ 3 สำหรับบุคคลทั่วไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องพร้อมกับยกระดับประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัล

นโยบายสุดท้ายที่แถลง คือ การแก้หนี้ครัวเรือน โดยเน้นที่หนี้“รถยนต์” และ “บ้าน” โดยธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคาร ตกลงที่จะลดการส่งเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูลง 0.23% ซึ่งเป็นเงินกว่า 39,000 ล้านต่อปี และธนาคารพาณิชย์จะเติมให้อีก39,000 รวมกันเป็น 78,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อพักดอกเบี้ย 3 ปี ให้ลูกหนี้จ่ายคืนเงินต้นได้เต็มจำนวน

โดยจะเริ่มดำเนินการในต้นปี 2568 พร้อมมาตรการประนอมหนี้แบบพิเศษที่จะล้างหนี้ให้ทั้งหมด สำหรับลูกหนี้มูลหนี้ต่ำกว่า5,000 บาท สุดท้ายนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวกับรองนายกรัฐมนตรีคณะรัฐมนตรีและข้าราชการว่า นักการเมืองและข้าราชการ ต่างมาจากภาษีของประชาชน เราต่างมีหัวใจเดียวกันคือ การทำงานเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน การทำให้ประไทยดีขึ้น วันนี้อยากให้เพื่อนข้าราชการทุกท่านยึดคติในใจว่า หลังจากนี้ จะเป็นปีแห่งการสร้าง‘People Empowerment’ เพิ่มอำนาจประชาชน ลดอำนาจเรา หรือการลดและเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ

ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯ แพทองธาร พร้อมขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ เป็นของขวัญปีใหม่ 68