

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า การเพิ่มทุนของการบินไทย โดยให้กระทรวงการคลังถือหุ้น 40% นั้น จะเป็นการดำเนินการโดยคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งดำเนินการได้ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้และได้รายงานให้ ครม.รับทราบแล้ว
ทั้งนี้การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นหลังจากที่มีการแปลงหนี้เป็นทุน และสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังลดลง ดังนั้นการเพิ่มทุนก็เป็นขั้นตอนที่ทำได้และเป็นไปตามการทำแผนฟื้นฟูที่มีการหารือกันตั้งแต่แรกแล้วว่าในการฟื้นฟูการบินไทยนั้นหน่วยงานของรัฐจะไม่ถือหุ้นน้อยกว่า 25% และไม่มากกว่า 49% คือหมายความว่าไม่ให้มีการถือหุ้นน้อยเกินไป และไม่ให้ถือหุ้นเกินกว่า 49% จนกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยเมื่อดำเนินการตามนี้ก็ไม่ได้ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ของการฟื้นฟูการบินไทยแต่อย่างใด
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าภายหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมาเห็นชอบให้กระทรวงการคลังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท การบินไทย จำกัด เรียบร้อยแล้วขณะนี้ กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)ได้แจ้งการใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนในการบินไทย สำหรับเม็ดเงินเพิ่มทุนนั้นอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงการคลังจะนำรายได้ที่เป็นเงินฝากจากการบริหารหลักทรัพย์ของกระทรวงการคลังเข้ามาใช้ในการเพิ่มทุนดังกล่าวโดยกระทรวงการคลังจะต้องโอนเงินเพิ่มทุนให้แก่การบินไทยในวันที่ 12 ธ.ค.นี้
โดยภายหลังการเพิ่มทุนแล้วกระทรวงการคลังจะถือหุ้นรวมราว 40% โดยระดับการถือหุ้นดังกล่าว จะไม่ทำให้การบินไทยกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจเนื่องจากกระทรวงการคลังไม่ได้ถือหุ้น 51% แต่สัดส่วนการถือหุ้น 40% นั้นจะทำให้การบินไทยยังจะเป็นสายการบินแห่งชาติต่อไป
ทั้งนี้ในระดับ 40% นั้นเป็นการเพิ่มทุนรวมกันของส่วนที่กระทรวงการคลังถือหุ้นการบินไทยโดยตรง และร่วมกับส่วนที่กระทรวงการคลังถือหุ้น ได้แก่ กองทุนวายุภักษ์ และธนาคารออมสิน โดยก่อนหน้าที่กระทรวงการคลังจะใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนและแปลงหนี้เป็นทุน 100% กระทรวงการคลังได้ถือหุ้นในการบินไทยอยู่ที่ 47.99%
แต่เมื่อเจ้าหนี้ทั้งหมดของการบินไทยได้ใช้สิทธิในการแปลงหนี้เป็นทุนทั้งหมด ทำให้กระทรวงการคลังถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงมาอยู่ที่ประมาณ 30%แต่หลังจากที่ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนทำให้กระทรวงการคลังเข้าถือหุ้นรวมราว 40%
โดยการบินไทยนั้น หลังการปรับโครงสร้างทุนแล้ว ส่วนทุนของการบินไทยจะกลับมาเป็นบวก เข้าเงื่อนไขการยื่นออกจากแผนพื้นฟูกิจการได้ โดยคาดว่าจะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ภายในไตรมาส 2 ของปี 2568 จากนั้นจะกลับเข้าซื้อชายในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป
ทั้งนี้ปัจจุบันสัดส่วนโครงสร้างการถือหุ้นในการบินไทย ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง 33.4% รัฐวิสาหกิจอื่นๆ 4.1% กองทุนวายุภักษ์ 2.8% ผู้ถือหุ้นอื่นๆ (เดิม) 2.8% เจ้าหนี้ตามแผนการฟื้นฟูกิจการ 44.3% และ ผู้ถือหุ้นเดิมก่อนการปรับโครงสร้างเงินทุนพนักงาน และบุคคลในวงจำกัด ที่จองซื้อหุ้นสามัญ 12.6%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘ครม.สัญจรเชียงใหม่’ เห็นชอบ ‘วายุภักษ์‘ ซื้อหุ้นการบินไทย เป้าหมาย ‘คลัง’ ถือหุ้น 40%