สุรเกียรติ์ ชี้ 6 ปัจจัย ไทยยังไม่พร้อมรับมือ “ดิสรับชั่น”

สุรเกียรติ์ ชี้ 6 ปัจจัย ไทยยังไม่พร้อมรับมือ "ดิสรับชั่น"
ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เตือนประเทศไทยไม่พร้อมรับมือ "ดิสรับชั่น" ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก


ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เตือนประเทศไทยไม่พร้อมรับมือ “ดิสรับชั่น” ครั้งใหญ่ ชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่ไทยกำลังเผชิญท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก จากปาฐกถา “Unraveling Thailand’s Future ไขรหัสอนาคตประเทศไทย” ในงานสัมมนา Follow the Future 2024 จัดโดยสื่อ ทันโลกกับ Trader KP และ Business Tomorrow เมื่อ 30 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา

โดย ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า “ไทยยังขาดการเตรียมความพร้อมอย่างจริงจังในการรับมือกับดิสรับชั่น (Disruption) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ใน 6 ด้านที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และการดำเนินชีวิตทั่วโลก” ดังนี้

1. เทคโนโลยี (Technology Disruption)

    • การพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีล้ำสมัยกำลังเปลี่ยนวิถีชีวิตและการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีความกังวลว่า AI จะเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์

    2. ประชากร (Demographic Disruption)

    • การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในไทย สร้างความท้าทายด้านเศรษฐกิจและระบบสวัสดิการ เนื่องจากไทยได้รับการประเมินว่ามีความพร้อมต่ำที่สุดในเอเชียในการจัดการรับการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างประชากร

    3. โรคระบาด (Pandemic Disruption)

    • จากวิกฤตโควิด-19 ชี้ให้เห็นว่าไทยและหลายประเทศในโลกยังขาดการเตรียมความพร้อมสำหรับภัยสุขภาพระดับโลก โดยไทยใช้เวลาฟื้นตัวถึง 3 ปี จากผลกระทบของโควิด ถือว่านานที่สุดเมื่อเทียบกับหลายประเทศ

    4. สิ่งแวดล้อม (Environment Disruption)

    • ภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมฉับพลันรุนแรง และสร้างความเสียหายที่ยาวนานมากขึ้น สะท้อนถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ต้องการการตอบสนองอย่างเร่งด่วน

    5. การศึกษา (Education Disruption)

      • ระบบการศึกษาไทยกำลังเผชิญความล้าหลัง ขณะที่การศึกษานอกระบบ เริ่มมีความสำคัญมากขึ้น อีกทั้งหลักสูตรในมหาวิทยาลัยไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน อาจารย์ไม่สามารถโค้ชได้เพราะไม่มีประสบการณ์ จึงเป็นวาระสำคัญที่ต้องเร่งปรับปรุงคุณภาพการศึกษา

      6. การเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ (Political & Geopolitical Disruption)

        • ความปั่นป่วนทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน ความตึงเครียดในเอเชีย และนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทย

        ไทยอาจเจอนโยบายการกีดกันการค้า จากโดนัลด์ ทรัมป์

        ดร.สุรเกียรติ์ ยังเผยอีกว่า ไทยยังขาดความพร้อมในการรับมือความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในกรณีที่สหรัฐฯ มีผู้นำคนใหม่อย่าง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีแนวโน้มใช้นโยบายกีดกันการค้าฝ่ายเดียว แทนการพึ่งพาระบบพหุภาคีขององค์การการค้าโลก

        สถานการณ์นี้อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างรุนแรง เนื่องจากไทยมีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ กว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจกลายเป็นเป้าหมายของมาตรการกีดกันทางการค้าในอนาคต

        จึงเน้นย้ำว่าภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ และสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาค เช่น อาเซียนบวกสาม เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในเวทีการเจรจาระหว่างประเทศ เพราะไทยไม่อาจต่อสู้การเปลี่ยนแปลงนี้อย่างลำพัง ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อก้าวข้ามความท้าทายและเตรียมพร้อมรับมือกับโลกอนาคต

        Business Tomorrow

        อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ปิดดีล FTA ไทย-EFTA ผู้ประกอบการอ่อนแอ เตรียมปรับตัวรับการแข่งขัน