ประชุมเจ้าหนี้ “การบินไทย” ลุ้นทุกชอต หลังไฟเขียวแก้แผนฟื้นฟู 3 วาระ



ประชุมเจ้าหนี้ “การบินไทย” ลุ้นทุกชอต หลังไฟเขียวแก้แผนฟื้นฟู 3 วาระ ดันตัวแทนคลัง – คมนาคม นั่งผู้บริหารแผนเพิ่ม คุมเสียง 3 ใน 5 แถมโหวตเจ้าหนี้ฝั่งคลังชนะการบินไทยแบบเฉียดฉิว 50.4 ต่อ 49.6

ขณะที่ กว่าจะเสร็จสิ้นการโหวตของเจ้าหนี้ ต้องขยายเวลาการประมวลผลนับคะแนน ออกไปถึง 3 ครั้ง ด้าน ”ปิยสวัสดิ์” กังวลการเข้ามาของผู้บริหารแผนฯจากรัฐ ส่งผลกระทบ ต่อการขายหุ้นเพิ่มทุน ที่จะมีขึ้น ถึงขั้นได้เงินเพิ่มทุนไม่เป็นไปตามคาด เหตุ กลัวมือการเมืองเข้ามาแทรกแซงการบริหาร ยันไปลุ้นต่ออีกยกเดือน เม.ย. ตอนเลือกบอร์ดการบินไทยชุดใหม่

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ภายหลังเสร็จสิ้นการโหวตของเจ้าหนี้การบินไทยว่า ในการประชุมเจ้าหนี้ครั้งนี้มีวาระการพิจารณาแก้ไขแผนฟื้นฟู 3 เรื่อง

ประกอบด้วย 1. วาระขอลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par Value) เพื่อล้างผลขาดทุนสะสมหลักทรัพย์ที่มีประมาณ 60,000 ล้านบาท 2. วาระขอพิจารณาชำระหนี้ แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟู โดยการบินไทย จะเสนอชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ก่อนกำหนด เป็นจำนวนเงิน ไม่น้อยกว่าจำนวนเงินปันผล ที่จะมีการเสนอจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นในครั้งนั้นๆ

และ 3. วาระขอพิจารณาเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟู 2 ราย ประกอบด้วย นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบาย และแผนการขนส่ง และจราจร กระทรวงคมนาคม และนายพลจักร นิ่มวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง

ซึ่งทั้ง 3 วาระผ่านการโหวตจากเจ้าหนี้ แบบเฉียดฉิว โดยเจ้าหนี้ฝั่งกระทรวงคลังชนะการบินไทยที่ 50.4% ต่อ 49.6% หรือห่างกันเพียง 0.8% เท่านั้น

นอกจากนั้น ในที่ประชุม โดยเจ้าหนี้ออมทรัพย์จากจังหวัดสุราษฎร์์ธานี ได้หยิบยกประเด็นสถานะของกระทรวงการคลังว่า สามารถโหวตได้หรือไม่ เนื่องจากมีการแปลงหนี้เป็นทุนไปแล้ว ซึ่งเจ้าหนี้บางรายก็แย้งว่าสถานะคลังสิ้นสุดไปแล้วตั้งแต่ผู้บริหารยื่นแปลงหนี้เป็นทุน

ขณะที่เจ้าหนี้ยบางรายอ้างว่า สถานะยังไม่สิ้นสุดสามารถโหวตได้ ซึ่งประเด็นนี้ ทางเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ ของกรมบังคับคดีแจ้งว่าต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณา

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่เจ้าหนี้โหวต ให้มีการแต่งตั้งผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ เพิ่มอีก 2 คนจากภาครัฐนั้นจะส่งผลกระทบต่อแผนฟื้นฟูกิจการหรือไม่นั้น ในเรื่องนี้มองว่าไม่มีผลกระทบต่อแผน แต่หากมีการขยายระยะเวลาการออกจากแผนอันนั้นจะกระทบ เพราะตามแผนจะต้องออกจากแผนฟื้นฟูภายในไตรมาส 2 ปี 68

แต่ในส่วนการแต่งตั้งตัวแทนจากภาครัฐเข้ามาเป็นผู้บริหารแผนเพิ่มเติมนั้น จะเป็นการกังวลมากกว่า ว่าจะไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุน เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ผู้บริหารแผนฯออกโรดโชว์เพื่อขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเจาะจง

มีนักลงทุนส่วนใหญ่เห็นด้วย ที่จะเข้ามาเพิ่มทุนแบบเจาะจงเนื่องจากมองว่าการบินไทยมีการเดินตามแผนฟื้นฟู การบริหารงานเป็นเอกชน ปลอดการเมือง และยังสามารถนำพาการบินไทยให้มีกำไรได้

แต่หากมีผู้บริหารแผนฯ ที่ส่งมาจากการเมือง และ ภาครัฐ นักลงทุนส่วนใหญ่มีข้อกังวลว่า ต่อไปจะถูกแทรกแซงทางการเมืองได้ ดังนั้น จึงเชื่อว่า จะส่งผลกระทบต่อการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ที่กำลังจะเกิดขึ้นใน 30 ธ.ค.นี้ แน่นอน โดยเฉพาะประเด็น จะไม่สามารถขายหุ้นเพิ่มทุนได้ ตามที่ตั้งเป้าไว้ และ อาจจะขายไม่หมด หากขายไม่หมดหุ้นส่วนที่เหลือก็จะถูกตัดทิ้งไป

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่กระทรวงการคลังจะให้กองทุนวายุภักษ์เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน ในเรื่องนี้ก็เป็นสิทธิที่จะซื้อได้ ก็จะได้ตามสัดส่วนที่มีสิทธิ แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่าขณะนี้รับทราบว่ามีหลายธนาคารของรัฐที่เดิมเป็นผู้ถือหุ้นเดิม

แต่ตอนที่เปิดให้เพิ่มทุนกลับไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนตอนราคาที่ 2.54 บาทต่อหุ้น แต่จะกลับมาซื้อในรอบ ที่เปิดขายแบบเจาะจงที่ราคา 4.48 บาทต่อหุ้น ซึ่งก็น่าสงสัยมาซื้อทำไมตอนราคาแพง ซึ่งตรงนี้ ก็อยู่ที่เจตนาภาครัฐละ ว่าคิดอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานจากการบินไทยว่า ในการโหวตของเจ้าหนี้ เพื่อพิจารณาเห็นชอบโหวตใน 3 ประเด็นดังกล่าว พบว่า จะผ่านแต่ละประเด็น มีการถกเถียงกันในวงกว้าง พอจะมีการโหวต ก็มีการขยายเวลาโหวตครั้งละ 30-45 นาทีรวมถึง 3 ครั้ง

และ เมื่อมีการโหวตระบบบางครั้งเจ้าหนี้บางรายก็โหวตไม่ได้ ถึงขั้นนายปิยะสวัสดิ์ ต้องเดินลงมาดูด้วยตนเองว่าเกิดอะไรขึ้น พอเมื่อโหวตผ่านคะแนนก็ไม่ขาดทิ้ง ชนะกันแต่หลัก 0.8% เท่านั้น

นอกจากนั้น ยังมีการมองว่า ทำไมกระทรวงคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่จำเป็นที่ต้องเสนอ เพิ่มรายชื่อผู้บริหารแผนอีก 2 รายเลย น่าจะรอตอนไป เสนอรายชื่อบอร์ด การบินไทย ที่จะมีการเลือกโดยผู้ถือหุ้นในเดือน เม.ย. 68 ก็ได้

สำหรับ คณะผู้บริหารแผนปัจจุบัน 3 คน ประกอบด้วย นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์, นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะผู้แทนกระทรวงการคลัง

และเพิ่มอีก 2 คน ประกอบด้วย นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบาย และแผนการขนส่ง และ จราจร กระทรวงคมนาคม และ นายพลจักร นิ่มวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง

ส่วน นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังขอยืนยันว่าบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI จะไม่มีทางย้อนกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจอย่างแน่นอน หลังจากบริษัทออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ ทำให้นโยบาย และ การบริหารงานการบินไทย มีความเป็นเอกภาพ และเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากบริษัทสามารถสรรหาผู้บริหารมืออาชีพตามสายงานต่าง ๆ เข้ามาร่วมบริหารงานได้มากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘ครม.สัญจรเชียงใหม่’ เห็นชอบ ‘วายุภักษ์‘ ซื้อหุ้นการบินไทย เป้าหมาย ‘คลัง’ ถือหุ้น 40%

: บริษัท การบินไทย จำกัด​ (มหาชน)