

‘สุรพงษ์’ ชี้ ซอฟต์พาวเวอร์ไทยทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เชื่อทำให้ไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางสู่รายได้สูง ผ่านพ้นความยากจน
น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาในหัวข้อ “ซอฟต์พาวเวอร์…พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย” ภายในงานเสวนา เดลินิวส์ ทอล์ก 2024 (Dailynews Talk 2024) “Soft Power : โอกาสประเทศไทย” โดยระบุว่า การทำงานของคณะซอฟต์พาวเวอร์ มีคนตั้งคำถามว่า ซอฟต์พาวเวอร์คืออะไร มีบทบาทอะไรในสังคมโลก และมีคนตั้งคำถามว่าซอฟต์พาวเวอร์ไม่ควรพูดออกไปว่าจะทำอะไร
ทั้งนี้ มองว่าคำนิยามคือ การทำให้ประเทศ สังคมอื่น ทำตามในสิ่งที่อยากให้ทำ แต่ในวันนี้คำนิยามซอฟต์พาวเวอร์อาจแตกต่างออกไป คำนิยามซอฟต์พาวเวอร์ในประเทศไทย คือ การมีเสน่ห์
ขณะที่คำถามคือ ซอฟพาวเวอร์เป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจหรือไม่นั้น ได้มีหน่วยงานจัดอันดับ 4 สถาบันที่ได้จัดอันดับ ตีความในหลากหลายมิติ หลายบริบท ทั้งการเมืองการปกครอง และเศรษฐกิจ แต่ในประเทศไทยจะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยด้วยซฟอต์พาวเวอร์
“ในวันนี้มีการจัดดัชนีซอฟต์พาวเวอร์ ไม่ใช่แค่ประเทศใดประเทศหนึ่ง เป็นการร่วมมือกัน ระหว่างประเทศต่างๆ มีการร่วมมือกันอย่างการทำเพลงทำดนตรี ร่วมมือทางด้านวัฒนธรรม แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่เรื่องเร้นลับอีกต่อไป โดยมองว่าการประกาศเรื่องซอฟต์พาวเวอร์จะทำให้ต่างชาติทั่วโลกทราบว่าจะทำอะไรและจะเกิดขึ้นได้อย่างไร”
รัฐจะใช้ซอฟต์พาวเวอร์ช่วยไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง
น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจจะทำให้ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์นำไปสู่ประโยชน์ ต้องทำให้ไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูงสร้างไม่ให้คนไทยถูกทอดทิ้ง และทิ้งใครไว้ข้างหลังผ่านความร่วมมือกับต่างประเทศหรือแม้แต่กับประเทศไทย หรือทั้งภาครัฐและเอกชน
การผลักดันซอฟต์พาวเวอร์สร้างความร่วมมือครั้งใหญ่ ระหว่างภาครัฐ เอกชน และทุกองค์กร โดยคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์มาร่วมกันผลักดัน เปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมผลักดัน เราจะต้องให้ซอฟต์พาวเวอร์เอกชนเป็นพระเอก มีปัญหาอุปสรรคภาครัฐต้องแก้ไขให้หมดและมีคนเก่งอีกมากมาย เช่น อัญมณี มีช่างน้อยมาก ไทยยังขาดแรงงานอัญมณี ขาดแรงงานทักษะสูง
น.พ.สุรพงษ์ ได้เน้นย้ำ ซอฟต์พาวเวอร์ว่าต้องอาศัยความร่วมมือและต้องจัดตั้งองค์กรและทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตั้งแต่การคิดเชิงยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างไร ,รวบรวมหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อคิดในเชิงบูรณาการ ขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์เป็นระบบและระดับอนุกรรมการ 11 อุตสาหกรรม 12 คณะ มีอนุกรรมการระดับจังหวัด การขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์เป็นการลงรายละเอียด เป็นระบบต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อยากให้มีนักรบซอฟต์พาวเวอร์ให้ได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตามยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ที่ผ่านมามีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณ ซึ่งมีความล่าช้าและไม่ได้งบตามเป้าหมาย แต่ที่ผ่านมาต้องอาศัยความร่วมมือกันทุกภาคส่วนเพื่อผลักดันตามยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ให้เกิดขึ้น เช่น หนึ่งโครงการหนึ่งเชฟอาหารไทย มีโค้ชมวยไทย สร้างเทศกาลเฟสติวัล เทศกาลดนตรีเทศกาลภาพยนตร์ และอุตสาหกรรมเกม เป็นต้น
น.พ.สุรพงษ์ ระบุว่า ในปี 68 ไทยมีโอกาสในจัดอีเวนต์เกมระดับโลก และในงบประมาณปี 68 จะดำเนินการโครงการอบรม 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย , โครงการพัฒนาบุคลากรครูด้านศิลปะ และโครงการอบรมหลักสูตรภาพยนต์ ฟิล์มแคมป์ และค่ายผลิตภาพยนต์สั้น รวมทั้งสนับสนุนและสร้างอีโคซิสเต็ม
นอกจากนี้ ในวันที่ 29 ต.ค. ที่จะมีการจัด “วินเทอร์เฟสติวัล” มีความแตกต่างจากปีอื่นๆ และให้เกิดความเชื่อมั่น ให้ทั่วโลกรู้ว่าประเทศไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และอยากให้มีพ.ร.บ. THACCA ส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่คาดว่าจะเข้าครม.และเสนอสภาต่อไปและคงจะก่อตั้งใด้ในปี 68 น.พ.สุรพงษ์ สรุปทิ้งท้ายว่า “เชื่อว่าซอฟต์พาวเวอร์เป็นเครื่องมือให้ไทยพัฒนาเป็นประเทศรายได้สูงและหลุดพ้นจากความยากจน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯ “แพทองธาร” “ชูยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ ชวนคนไทยเป็นหุ้นส่วน” เสริมเสน่ห์สร้างแบรนด์ไทยตีตลาดโลก