

ขนส่งทางบก เอาจริง! คุมเข้มตรวจสอบรถโดยสารประจำทาง และไม่ประจำทางจำนวน 13,426 คันอย่างเข้มข้น ตั้งเป้าภายใน 60 วัน
- เผยเรียกผู้ประกอบการรถบัส ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ นำรถในครอบครองมาตรวจสภาพรถ แต่ถูกปฎิเสธ
- พบนำรถไปอู่ซ่อมที่โคราช ทำการถอดถังแก๊สที่ติดตั้งเกิน จากที่แจ้งจดทะเบียนไว้ออกจากรถ
- ชี้พฤติกรรมดังกล่าว เป็นการแสดงเจตนาปกปิดความผิด ดัดแปลงรถโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า จากกรณีรถบัสนำนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี มาทัศนศึกษา ซึ่งประสบอุบัติเหตุเกิดเพลิงไหม้ ณ บริเวณใกล้ทางแยกต่างระดับอนุสรณ์สถาน จ.ปทุมธานี ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
โดยกรมการขนส่งทางบกได้เรียกผู้ประกอบการรายดังกล่าว ให้นำรถที่อยู่ในความครอบครองและเครือข่ายจำนวน 5 คัน เข้ามาตรวจสภาพรถทั้งหมด ณ สำนักงานขนส่งลพบุรี แต่ผู้ประกอบการรายดังกล่าว กลับมีพฤติกรรมบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมนำรถเข้ารับการตรวจสภาพรถตามคำสั่งโดยเร็ว
ดังนั้น กรมการขนส่งทางบก จึงได้ตรวจสอบพิกัด GPS พบว่า รถโดยสารทั้งหมดของผู้ประกอบการรายดังกล่าวและเครือข่าย อยู่ที่อู่ซ่อมรถเอกชน ในจังหวัดนครราชสีมา จึงได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ารถโดยสารทั้ง 5 คันดังกล่าว อยู่ระหว่างการถอดถังแก๊สที่ติดตั้งเกินจากที่แจ้งจดทะเบียนไว้ออกจากรถ
ทั้งนี้ พฤติกรรมดังกล่าว เป็นการแสดงเจตนาที่จะปกปิดความผิด จากการดัดแปลงรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดัดแปลงระบบก๊าซ ซึ่งส่งผลให้รถโดยสารมีน้ำหนักเกินสมรรถนะ
อีกทั้งมีความเสี่ยงอาจเกิดการรั่วไหลของก๊าซจากการติดตั้งระบบก๊าซที่ไม่ถูกต้อง และไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากวิศวกร หรือหน่วยงานที่กรมการขนส่งทางบกรับรอง ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อรวบรวมส่งพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดีต่อไป
นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า ขนส่งทางบกจะเรียกรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง ที่ใช้เชื้อเพลิง CNG ทั้งหมดจำนวน 13,426 คัน เข้ารับการตรวจสภาพรถอย่างเข้มข้นภายใน 60 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กรมการขนส่งทางบก สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ขนส่งสิงห์บุรี เซ่นไฟไหม้ รถบัสนักเรียน