

“สุริยะ” สั่งการบ้าน “วีริศ” ผู้ว่า รฟท.คนใหม่ ปิดจ๊อบสร้าง รถไฟทางคู่ เฟส 2- ไทยจีน ช่วง โคราช-หนองคาย ให้ได้ในไตรมาส 1 ปี 68
- พร้อมเดินหน้า จัดหาเอกชนเข้ามารับสัมปทานเดินรถ รูปแบบ PPP
- ควบคู่สร้างงานโยธา พร้อมเร่งหารือสภาพัฒน์หาทางออก
- การจัดหาขบวนรถไฟใหม่ 184 คัน หวังมาเสริมศักยภาพสร้างรายได้ให้ รฟท.
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ ครม.ได้มีมติอนุมัติให้นายวีริศ อัมระปาล ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คนใหม่นั้น ภายในต้นเดือน ต.ค. ตนจะไปมอบนโยบายที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
โดยเป้าหมายหลักผู้ว่า รฟท.คนใหม่ จะต้องหาแนวทาง ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินสะสมที่ รฟท. มีอยู่กว่า 230,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน เพื่อให้การทำงานสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญในระบบราง โดยเฉพาะเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง จากทางถนนมาเป็นระบบราง ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ดังนั้นตนจึงมีโยบาย ที่จะให้ รฟท. เร่งเดินหน้าประกวดราคาหาเอกชน เข้ามาก่อสร้างในโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 6 เส้นทาง มูลค่า 298,060 ล้านบาท
รวมถึงก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ช่วง โคราช-หนองคายระยะทาง 356 กิโลเมตร รวมมูลค่าการลงทุน341,351.42 ล้านบาท ให้ได้ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 68 ขณะเดียวกันให้ รฟท.เดินหน้าจัดหาเอกชน เข้ามารับสัมปทานเดินรถ รูปแบบ PPP ควบคู่สร้างงานโยธา
นอกจากนั้นให้ รฟท. เร่งก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วง ตลิ่งชัน-ศิริราช-ศาลยา และ ช่วงรังสิต-ธรรมศาสตร์ และช่วง บางซื่อ-พญาไท-หัวหมาก และช่วง บางซื่อ-หัวลำโพง นอกจากนี้ ยังจะมีการหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ในเรื่องของความจำเป็นจัดหาขบวนรถจำนวน184 คันมาวิ่งให้บริการ เพื่อรองรับการสร้างรถไฟทางคู่ ทั้ง เฟส1 และ เฟส 2
“ในปี 68 ประเทศไทย และประเทศจีน จะมีความสัมพันธ์ครบ 50 ปี ดังนั้น รฟท. จะต้องเร่งสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ทั้ง 2 ระยะ ให้แล้วเสร็จ เพื่อเชื่อมต่อ One Belt One Road อย่างเป็นรูปธรรม แบ่งเป็น ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-โคราช ระยะทาง 250 กิโลเมตร (กม.) จำนวน 14 สัญญา ให้แล้วเสร็จตามแผน ซึ่งคาดว่า จะเปิดให้บริการได้ในช่วงกลางปี 71 ส่วนระยะที่ 2 ช่วงโคราช-หนองคายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเสนอให้ ครม. พิจารณาอนุมัติโครงการ และคาดว่า จะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 71 เช่นกัน”
ทั้งนี้ สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ 2 รวม 6 เส้นทาง มูลค่า 298,060 ล้านบาท ประกอบด้วย ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กิโลเมตร วงเงิน 81,143 ล้านบาท
ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตรวงเงิน 30,422 ล้านบาท, ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร วงเงิน 66,270 ล้านบาท
ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร วงเงิน 68,222 ล้านบาท, ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร วงเงิน 44,103 ล้านบาท, ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร วงเงิน 7,900 ล้านบาท
นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ส่วนการให้บริการผู้โดยสารนั้น มอบหมายให้ รฟท. ยกระดับขบวนรถไฟ โดยการปรับปรุงขบวนรถไฟชั้น 3 (รถพัดลม) ให้เป็นขบวนรถปรับอากาศ (รถแอร์) เพื่อยกระดับการให้บริการพี่น้องประชาชนสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลด้วย
ทั้งนี้ จะสามารถทำให้ รฟท. มีรายได้จากการให้บริการขบวนรถไฟพาณิชย์ ได้เพิ่มมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า อัตราค่าโดยสารจะไม่กระทบต่อกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้มีรายได้น้อยอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : การรถไฟฯ เปิดเดินรถ ทางคู่สายใต้ 421 กม. ช่วงนครปฐม-ชุมพร