

สมาคมมัคคุเทศก์แห่งประเทศ ยกทีมร้องกระทรวงท่องเที่ยวฯ แก้ปัญหาด่วน 3 เรื่อง “ปราบไกด์ต่างชาติเถื่อน-เลื่อนใช้ระบบจ็อบออเดอร์ออนไลน์-ตั้งอนุกรรมการแก้ข้อบกพร่อง” อธิบดีกรมท่องเที่ยวรับลูกนำเข้าหารือที่ประชุมทันที ประกาศ 1 ต.ค.67 เลื่อนใช้จ็อบออเดอร์ ไม่มีกำหนดจนกว่าจะได้ข้อยุติ
นายวัสน์พล อรรถพรธนเสฐ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นำสมาชิกที่จดทะเบียนเป็นมัคคุเทศก์หรือไกด์ไทยกว่า 50 คน ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยื่นเสนอขอให้ทางคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พิจารณาความเดือดร้อน 3 เรื่องด่วน ประกอบด้วย เรื่องที่ 1 ขอให้ภาครัฐเร่งปราบปรามไกด์ต่างชาติที่ลักลอบเข้ามาประกอบอาชีพมัคคุเทศก์และทำธุรกิจท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในเมืองไทยเป็นจำนวนมาก จึงต้องการขอให้ตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมการท่องเที่ยว มีหน้าที่กำกับดูแลโดยตรงเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายอาชีพสงวนของคนไทยเร่งหามาตรฐานตรวจสอบอย่างเข้มงวด พร้อมกับเร่งปราบปรามกลุ่มคนต่างชาติที่เข้ามาทำอาชีพในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างผิดกฎหมายให้หมดไปโดยเร็ว เนื่องจากส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองไทย
ทางสมาคมมัคคุเทศก์ฯ ได้นำพยานบุคคล เป็นกลุ่มมัคคุเทศก์ และผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว เดินทางมายังหน้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมรายละเอียดข้อร้องเรียน โดยมีมัคคุเทศก์ไทยที่ให้บริการทุกภาษา ยืนยันกรณีเหตุการณ์ที่มีต่างชาติเข้ามาทำหน้าที่ไกดซ์นำนักท่องเที่ยวต่างชาติไปท่องเที่ยวตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
รวมทั้งขอเรื่องที่ 2 ให้พิจารณา “เลื่อนการบังคับใช้ระบบใบสั่งงานมัคคุเทศก์ออนไลน์” หรือ TST : Thailand Smart Tour ซึ่งกำลังจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป ขณะนี้ทางตัวแทนบบริษัทนำเที่ยวของไทยต้องจัดทำใบสั่งงานมัคคุเทศก์ผ่านแพลตฟอร์ม Thailand Smart Tour (TST) รวมถึงได้ยกเลิกการออกใบสั่งงานมัคคุเทศก์แบบกระดาษทั้งหมด หากมัคคุเทศก์ถูกตรวจสอบก็จะต้องแสดงใบสั่งงานมัคคุเทศก์ผ่านแอปพลิเคชั่นดังกล่าว Application เท่านั้น แต่จากการที่เจ้าหน้าที่ของบริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สัญชาติไทยทดสอบใช้ระบบกลับพบว่าโครงสร้างของระบบในแพลตฟอร์มนี้มีหลายส่วนไม่เหมาะสม ใช้งานยาก จึงขอให้คณะกรรมการฯ เลื่อนการบังคับใช้ออกไปก่อน

ทางสมาคมมัคคุเทศก์ฯ ได้เสนอเรื่องที่ 3 การจัดตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาแก้ไข ระเบียบ เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดส่งใบสั่งงานมัคคุเทศก์ (Job Order) เนื่องจากใบสั่งงานดังกล่าวไม่สามารถป้องกันไกด์เถื่อนต่างชาติได้จริง อีกทั้งยังเป็นอุปสรรคกับการทำงานของมัคคุเทศก์ที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย เพราะต้องได้รับโทษทางอาญาเป็นจำนวนมาก
นายนายวัสน์พลกล่าวว่าสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ต้องขอขอบพระคุณ และชื่นชมความพยายามของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ร่วมกันดูแล และพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศ จึงหวังให้คณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์นำข้อเสนอของสมาคมฯ ไปพิจารณาโดยเร็ว เพื่อนำไปสู่แนวทางปฏิบัติที่จะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภาพรวมของไทย ซึ่งสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศกระจายสู่อาชีพต่าง ๆ อย่างทั่วถึงทั้งระดับชุมชน ท้องถิ่น และประเทศ ทำให้เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า วันนี้ 2 กันยายน 2567 ตนได้ติดตามปัญหาความเดือดร้อนของมัคคุเทศก์มาตลอด ในวันนี้ 2 กันยายน 2567 เป็นตัวแทนมารับเอกสารของสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ซึ่งมายื่นเรื่องให้คณะกรรมการท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์พิจารณาข้อเรียกร้องทั้งหมด แล้วช่วงบ่ายของวันเดียวกันจะได้นำเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการฯ ชุดนี้ ส่วนเรื่องประกาศบังคับใช้ใบสั่งงานปัจจุบันอนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวใช้ได้ Job Order/จ็อบ อเดอร์ได้ 2 แบบ คือ เอกสารแบบกระดาษ กับออนไลน์ และตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป กรมการท่องเที่ยวจะใช้ช่องทางเดียวคือออนไลน์ ซึ่งอาจจะเป็นปัญหากับมัคคุเทศก์บางกลุ่มอยู่บ้าง เพราะเดิมจะประกาศใช้ตามกำหนด แต่หลังจากได้ฟังปัญหาของทางสมาคมและสมาชิกมัคคุเทศก์วันนี้แล้วก็จะขอเลื่อนการใช้ระบบใบจ็อบ ออเดอร์ ไปก่อนจนกว่าจะหาข้อยุติได้ เพราะในบางพื้นที่อาจจะมีปัญหาเรื่องอิเลคทรอนิกส์ จึงขอหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับโทษปรับกรณีที่บริษัทนำเที่ยวออกใบจ็อบ ออเดอร์ ให้มัคคุเทศก์ นั้น โดยหลักการแล้วมัคคุเทศก์ที่เป็นสมาชิกสมาคมจดทะเบียนและปฏิบัติหน้าที่ในอาชีพถูกต้องอยู่แล้ว ตอนนี้ปัญหาคือเรื่องการใช้งานออกผ่านระบบออนไลน์มากกว่าที่ยังคงเป็นปัญหากับมัคคุเทศก์ไทย จึงส่งผลให้กรมการท่องเที่ยวต้องกลับมาทบทวนใหม่อีกครั้ง
เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “เศรษฐา” สั่งสตช.-กระทรวงท่องเที่ยว ดูแลต่างชาติปฏิบัติตามกฎหมายไทย